เว็บค้นหารายชื่อบริษัท

บริษัทรับทําวีซ่า บริษัทวีซ่า บริษัทรับต่อวีซ่า บริษัทขอวีซ่า ในประเทศไทย

  • การขอใบอนุญาตทำงาน
  • การออกใบอนุญาตทำงานใหม่เนื่องจากการสูญหาย
  • การยกเลิกวีซ่าธุรกิจและใบอนุญาตทำงาน
  • การต่ออายุ
  • ใบอนุญาตทำงาน (Work permit)

ค้นหา บริษัทรับทําวีซ่า

ประเภทวีซ่า
สถานที่ตั้ง

บริษัทรับทําวีซ่าทั้งหมด133

คลิก เลือก    บริษัท เพื่อส่งอีเมลติดต่อ
บริษัท เอ.เอ็น.เอ็ม.2219 บิสซิเนส จำกัด - วีซ่า
Thai Company

บริษัท เอ.เอ็น.เอ็ม.2219 บิสซิเนส จำกัด

กรุงเทพมหานคร

ให้คำปรึกษาทำใบอนุญาตทำงานให้กับต่างชาติที่ต้องการเข้ามาในราชอาณาจักร และ บริการรับทำบัญชี ตรวจสอบบัญชี

บริษัท บลู แอสซิสแท็นซ จำกัด - วีซ่า
Japanese Company

บริษัท บลู แอสซิสแท็นซ จำกัด

กรุงเทพมหานคร

บริการรับยื่นขอใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ใบอนุญาตท่องเที่ยว (Visa) สำหรับผู้ที่ต้องการทำงานหรือพำนักในประเทศไทย พร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับวีซ่าทำงาน (Visa Work Permit) การจดทะเบียนบริษัท รวมถึงตัวแทนเรียกร้องค่ารักษาพยาบาล สำหรับชาวญี่ปุ่นในประเทศไทย และ บริการล่ามทางการแพทย์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจและการทำงาน รวมการรับการรักษาในประเทศไทย

ห้างหุ้นส่วนจำกัด พัฒน์พงศ์ ทรานสเลชั่น แอนด์ วีซ่า เซอร์วิส - วีซ่า
Thai Company

ห้างหุ้นส่วนจำกัด พัฒน์พงศ์ ทรานสเลชั่น แอนด์ วีซ่า เซอร์วิส

กรุงเทพมหานคร

บริการวีซ่า, วีซ่าท่องเที่ยว, วีซ่านักเรียน/ศึกษาต่อ, วีซ่าทำงาน / ใบอนุญาตทำงาน, วีซ่าเกษียณอายุ, วีซ่าภรรยาไทย/บุตรไทย

บริษัท เจ.อาร์.พี.แอคเคาท์ติ้ง แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด - วีซ่า
Thai Company

บริษัท เจ.อาร์.พี.แอคเคาท์ติ้ง แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด

บริการด้านงานวีซ่า ปรึกษาวีซ่า และจดทะเบียนบริษัท, จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่, บริการจดทะเบียนการค้าและภาษีอากรครบวงจรโดยทีมงานมืออาชีพผู้มากด้วยประสบการณ์ และมีจรรยาบรรณในวิชาชีพ

บริษัท อคาเดมิค เวิลด์ จำกัด - วีซ่า
Thai Company

บริษัท อคาเดมิค เวิลด์ จำกัด

กรุงเทพมหานคร

บริการรับยื่นวีซ่าแบบครบวงจร

บริษัท ไทย วีซ่า แอนด์ เวิร์คเพอร์มิท เซอร์วิส จำกัด - วีซ่า
Thai Company

บริษัท ไทย วีซ่า แอนด์ เวิร์คเพอร์มิท เซอร์วิส จำกัด

กรุงเทพมหานคร

จากประสบการณ์การทำงาน สามารถวางใจในบริการจากทางเราได้ว่าสามารถทำวีซ่าให้ท่าน โดยทางเราสามารถอำนวยความสะดวกด้านการทำงานให้ท่านได้

บริษัท บีพี ลักซ์ซูรี ทราเวิล จำกัด - วีซ่า
Thai Company

บริษัท บีพี ลักซ์ซูรี ทราเวิล จำกัด

กรุงเทพมหานคร

บริการยื่น Visa ในหลากหลายประเทศ ในกลุ่มประเทศเชงเก้น 23 ประเทศ สหรัฐอเมริกา แคนนาดา ออสเตรเลีย นิวซีเเลนด์

บริษัท ชัชวาลย์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายและการบัญชี จำกัด - วีซ่า
Thai Company

บริษัท ชัชวาลย์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายและการบัญชี จำกัด

กรุงเทพมหานคร

รับยื่นขอ VISA / ยื่นขอใบอนุญาตทำงาน Work-Permit

เดอะเบสท์ ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ - วีซ่า
Thai Company

เดอะเบสท์ ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ

เชียงใหม่

เรามีบริการเตรียมเอกสารให้คำปรึกษาเกี่ยวกับวีซ่าทุกประเภท และบริการวีซ่ากว่า 25 ประเทศทั่วโลก พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าอย่างตรงจุด และแนะนำวิธีการเตรียมตัวในการสัมภาษณ์วีซ่า

เวิลด์ไวด์ เอ็ดดูเคชั่น เน็ตเวิร์ค จำกัด - วีซ่า
Thai Company

เวิลด์ไวด์ เอ็ดดูเคชั่น เน็ตเวิร์ค จำกัด

กรุงเทพมหานคร

WorldED มีประสบการณ์ด้านการศึกษาต่อต่างประเทศ และให้คำแนะนำเรื่องการทำวีซ่ามาแล้วมากกว่า 3,000 ราย ในระยะเวลา 14 ปี เช่น วีซ่าท่องเที่ยว (Tourist Visa) วีซ่านักเรียน (Student Visa) วีซ่านักเรียนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม วีซ่าออแพร์ วีซ่า J-1 วีซ่า F-1 และวีซ่าทำงาน

บริษัท อบาคัส ทราเวิล เซอร์วิส จำกัด - วีซ่า
Thai Company

บริษัท อบาคัส ทราเวิล เซอร์วิส จำกัด

กรุงเทพมหานคร

บริการทำวีซ่าเชงเก้น ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับวีซ่าทุกประเภท ท่องเที่ยว และวีซ่าธุรกิจ

บริษัท เอสพีเอ็ม การบัญชีและที่ปรึกษา จำกัด - วีซ่า
Thai Company

บริษัท เอสพีเอ็ม การบัญชีและที่ปรึกษา จำกัด

กรุงเทพมหานคร

บริการด้านการขอวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน

บริษัท พัทยา ออดิท จำกัด - วีซ่า
Thai Company

บริษัท พัทยา ออดิท จำกัด

ชลบุรี

บริการจากนักบัญชี และผู้สอบบัญชีที่มีคุณภาพ และเข้าใจบัญชีอย่างแท้จริง

บริษัท พรีเมี่ยม ทรานสเลชั่น พลัส จำกัด - วีซ่า
Thai Company

บริษัท พรีเมี่ยม ทรานสเลชั่น พลัส จำกัด

กรุงเทพมหานคร

บริการงานด้านวีซ่าทุกประเทศ รับยื่นวีซ่าทุกประเภททั่วโลก เปลี่ยนประเภทวีซ่า Change type of Visa ต่ออายุวีซ่า Visa Extension

บริษัท ดวงนารา การบัญชี จำกัด - วีซ่า
Thai Company

บริษัท ดวงนารา การบัญชี จำกัด

ระยอง

ทำ Work permit ให้ชาวต่างชาติ

บริษัท วีเอ็น แอคเคาท์ติ้ง โซลูชั่น จำกัด - วีซ่า
Thai Company

บริษัท วีเอ็น แอคเคาท์ติ้ง โซลูชั่น จำกัด

กรุงเทพมหานคร

บริการขอวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน

บริษัท ครีซิทีฟ บัญชี และ กฎหมาย จำกัด - วีซ่า
Thai Company

บริษัท ครีซิทีฟ บัญชี และ กฎหมาย จำกัด

กรุงเทพมหานคร

ผู้ให้บริการรับทำบัญชี จดทะเบียนธุรกิจ ตรวจสอบบัญชี รับทำวีซ่า ใบอนุญาตทำงาน

บริษัท เกทแอนด์โก คอนซัลแทนซ์ จำกัด - วีซ่า
Thai Company

บริษัท เกทแอนด์โก คอนซัลแทนซ์ จำกัด

กรุงเทพมหานคร

บริการด้านวีซ่าแบบครบวงจร

ฟอร์มการติดต่อบริษัท

#คุณสามารถส่งอีเมลได้สูงสุด 10 บริษัท
กรุณาเลือกบริษัทที่ต้องการติดต่อ

บทความจากบริษัท รีวิว หางาน และอื่น ๆ

ดูทั้งหมด »
  • 29-03-24
  • 239

Medical Tourism นั้น คือการเดินทางมารักษาอาการบาดเจ็บร่วมกับการท่องเที่ยว เช่น คุณเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เพื่อที่จะผ่าตัดบอลลูนเส้นเลือดหัวใจ ส่วนครอบครัวของคุณก็ถือโอกาสในการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นพร้อมกันเลย ซึ่งคนไทยเราในปัจจุบัน ป่วยเป็นโรคโมยา โมยา เป็นจำนวนมาก เป็นอาการผิดปกติทางหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองมีความผิดปกติ จึงใช้โปรแกรมนี้เดินทางพร้อมท่องเที่ยวเพื่อไปรักษาตัวเองที่ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากมีนวัตกรรมทางการแพทย์ที่สูง และตัวประเทศญี่ปุ่นเองมีสภาพแวดล้อม และสภาวะที่ทำให้ทุกคนอยากไปท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีวัฒนธรรมต่างๆที่สวยงามอีกด้วย ในวันนี้ทางเราจะมาอธิบายถึงโรคโมยาโมยา หรือ โรคหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองมีความผิดปกติ ว่ามีอาการอย่างไรบ้างครับ ทำความรู้จักกับโรคโมยาโมยา โรคโมยาโมยา (Moya-Moya disease) : เป็นโรคของหลอดเลือดสมองชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากการตีบของหลอดเลือดแดง Carotid ทั้งสองข้าง ทำให้เลือดไม่สามารถที่จะเข้าไปเลี้ยงสมองได้ไม่เพียงพอ สมองจึงเปิดการปรับตัว และสร้างหลอดเลือดแดงขึ้นมาใหม่เพื่อช่วยในการเลี้ยงสมอง ซึ่งหลอดเลือดที่สร้างมาใหม่นั้นมีขนาดเล็กและเป็นฝอย มีความเปราะบาง จึงเป็นที่มาของชื่อโรคโมยาโมยา เป็นภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่ากลุ่มควัน โรคโมยาโมยา สามารถพบได้ทั้งวัยเด็ก และผู้ใหญ่ ซึ่งจะพบในเด็กมากที่สุดในช่วงอายุ 7-12 ปี และในผู้ใหญ่จะพบในช่วงอายุ 40-50 ปี โรคชนิดนี้จะถูกพบมากในประชากรทวีปเอเชียมากกว่าทางฝั่งตะวันตก และพบได้เพศหญิงมากกว่าเพศชายถึง 2 เท่า โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นเอง จะพบ 1 ใน 200,000 ราย โรคชนิดนี้สามารถเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ อาจจะสัมพันธ์กับบางโรค เช่น โรคทางพันธุกรรม กลุ่มอาการดาวน์ กลุ่มไทรอยน์ อาการของโรคโมยาโมยา อาการโรคโมยาโมยานั้น มีได้ทั้งสมองขาดเลือดจากการที่หลอดเลือดสมองตีบ และเลือดออกในสมองจากหลอดเลือดฝอยที่ผิดปกติ โดยจะสังเกตจากอาการแขน ขาอ่อนแรง พูดไม่ขัด ปากเบี้ยว หรือ ปวดศรีษะอย่างรุนแรงจากการขาดเลือดในสมอง นอกจากนี้อาจจะพบอาการชักเกร็ฺงหรือพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงได้ ในวัยเด็กจะพบอาการสมองขาดเลือด ซึ่งถูกกระตุ้นจากการออกแรงหรือหายใจเร็ว เช่นร้องไห้ หรือออกกำลังกาย ส่วนผู้ใหญ่จะพบเลือดออกในสมองมากกว่าสมองขาดเลือด "ในยุคปัจจุบันนี้ โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งสภาพแวดล้อมและสภาพอากาศ อาจส่งผลต่อการเกิดโรคต่างๆได้ เราจะต้องหันมาดูแลตัวเองให้เพิ่มมากขึ้น" *** จุดพักสายตา *** การรักษาโรคโมยาโมยา การรักษาโรคโมยาโมยานี้ จะต้องรักษาตามอาการที่เกิดขึ้น ต้องควบคุมอาการชักเกร็ง และการเพิ่มเลือดเพื่อไปเลี้ยงสมอง ซึ่งประกอบไปด้วยการรักษาด้วยยา และการผ่าตัดต่อหลอดเลือดสมอง ซึ่งวิธีการรักษาแพทย์จะดูแล ประเมินอาการของผู้ป่วย และพิจารณาข้อดีและข้อเสียของแต่ละวิธีให้ผู้ป่วยแต่ละรายอย่างเหมาะสม ในส่วนของประเทศญี่ปุ่นเองมีระบบการรักษา และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นจำนวนมากในการรักษาโรคโมยาโมยานี้ เนื่องจากประชากรญี่ปุ่นเป็นจำนวนมากได้ประสบกับโรคชนิดนี้ จึงทำให้มีนวัตกรรมและการรักษาที่ถูกต้อง และตรงจุดเป็นอย่างมาก ซึ่งคนไทยอย่างเราเอง ที่เป็นโรคนี้ สามารถที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว และรักษาโรคนี้ไปพร้อมๆกันได้ นั้นก็คือโปรแกรม Medical Tourism ที่จะต้องใช้บริการกับบริษัทผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ และควรปรึกษากับแพทย์ของคุณก่อนการตัดสินใจ และ ที่สำคัญ ควรปรึกษาบริษัทผู้เชี่ยวชาญ เช่น Blue Assistance ที่มีประสบการณ์ จะทำให้คุณนั้นสามารถใช้บริการนี้ได้ง่ายและสะดวกเป็นอย่างมาก นับว่าเป็นตัวช่วยที่ดีตัวช่วยหนึ่งเลยทีเดียว ทาง บริษัท บลู แอสซิสแท็นซ จำกัด ได้ให้บริการ Medical Tourism ตัวแทนยื่นขอวีซ่า และใบอนุญาตทำงาน เราเป็นตัวแทนในการยื่นขอวีซ่าและใบอนุญาตทำงานให้กับบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น ตัวแทนยื่นขอใบอนุญาตทำงานและวีซ่าให้กับบริษัททั่วไปและสำนักงานตัวแทน / ธุรกิจที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน BOI ตัวแทนยื่นขอใบอนุญาตทำงานและวีซ่า / ตัวแทนยื่นขอใบอนุญาตกลับเข้าประเทศ / ดำเนินการเปลี่ยนวีซ่าแต่ละประเภทในประเทศไทย / ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทและงานด้านบัญชี (โดยบริษัทบัญชีในเครือ) / ตัวแทนให้คำปรึกษาและงานตรวจสอบประเภทต่าง ๆ ครับ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลการให้บริการของ บริษัท บลู แอสซิสแท็นซ จำกัด ได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ : 02-661-7687-88 Website : www.blue-assistance.co.th Website Profile : บริษัท บลู แอสซิสแท็นซ จำกัด Facebook : Blue Assistance Co.,Ltd

  • 29-03-24
  • 218

การเสียชีวิตของคนในครอบครัว หรือ คนที่เรารักนั้นเป็นเหตุการณ์ที่เจ็บปวด และ สามารถทำให้เราต้องจัดการกับกระบวนการการเสียชีวิต หนึ่งในสถานการณ์ที่ต้องพบเจอในช่วงนี้คือการจัดเตรียมสำหรับการเคลื่อนย้ายศพของคนที่เสียชีวิตไปแล้ว การตั้งใจที่จะให้พวกเขามีการจัดการในทางที่เหมาะสม และ เป็นธรรมต่อการเรียงศพเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อเป็นการเชียร์ และ เสริมสร้างความสะดวกสบายในวาระที่ยากลำบากนี้ ดังนั้น บทความนี้จะกล่าวถึงขั้นตอน และ แนวทางในการเตรียมการ และ จัดเตรียมสำหรับการเคลื่อนย้ายศพอย่างถูกต้อง และ เป็นระเบียบ 1. ติดต่อเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ทันทีที่การเสียชีวิตเกิดขึ้น ควรติดต่อกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเพื่อรายงานการเสียชีวิต และ เริ่มกระบวนการในการเคลื่อนย้ายศพ หากมีการสอบสวนเพิ่มเติมที่ต้องทำ ควรปรึกษากับทนายความ หรือ ผู้ช่วยทางกฎหมายเพื่อคำแนะนำ 2. หากมีแพทย์เฉพาะทางที่รักษา หากคนที่เสียชีวิตได้รับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทาง ติดต่อกับพวกเขาเพื่อขอรายงานการตรวจศพ และ เอกสารทางการแพทย์ที่จำเป็น 3. หากมีประกันชีวิต หากผู้เสียชีวิตมีกรมธรรม์ประกันชีวิต ติดต่อกับบริษัทประกันชีวิตที่เกี่ยวข้อง เพื่อทราบขั้นตอนในการเรียกร้องสิทธิ์ และ รับค่าสินไหมทดแทน 4. เลือกสถานที่ และ การจัดการศพ ตัดสินใจที่จะเคลื่อนย้ายศพไปที่ไหน หากคนที่เสียชีวิตมีความต้องการเฉพาะเจาะจง ควรทำตามนั้น เลือกสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับพิธีการศพ และ รับศพ การเลือกศพ และ การเคลื่อนย้ายศพในที่สาธารณะ หรือ ที่มีคนมาก ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น 5. แจ้งบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทำการแจ้งให้คนในครอบครัว และ เพื่อนญาติทราบถึงวัน และ สถานที่ศพ โดยติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ หรือ อื่นๆ เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสมาร่วมรำลึกถึงคนที่เสียชีวิต 6. การจัดทำเอกสาร รวบรวมเอกสารที่จำเป็น เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือโรคประจำตัว และ เอกสารทางการเงินที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ง่ายต่อกระบวนการทางทะเบียนที่จำเป็นต้องทำ 7. ความจำเป็นทางศาสนา และ ประเพณี ถ้ามีความจำเป็นทางศาสนา หรือ ประเพณีที่ต้องปฏิบัติ แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบเพื่อให้ได้รับความเข้าใจ และ สนับสนุน 8. การจัดพิธีการ เลือกประเภทของพิธีการที่เหมาะสม, อาจจะเป็นพิธีศาสนา พิธีทางวัฒนธรรม, หรือ แม้กระทั่งพิธีกรรมส่วนตัวที่ไม่ถูกประกาศเผยแพร่. ควรคิดถึงความประสงค์ของคนที่เสียชีวิต และ ความประสงค์ของครอบครัว 9. การรับแขก แจ้งให้เพื่อน, ญาติ และ ผู้ที่ต้องการมาร่วมงานพิธีทราบถึงรายละเอียด และ วิธีการเข้าร่วมพิธีการ ควรทำการจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อผู้ร่วมงาน 10. จัดทำงบประมาณ การจัดทำงบประมาณเพื่อการเคลื่อนย้ายศพเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ไม่เกิดปัญหาทางการเงินในระหว่างขั้นตอนการจัดการ ซึ่งขั้นตอน และ เอกสารที่ได้กำหนดไว้ ตามกรมศุลกากร มีดังต่อไปนี้ครับ การเคลื่อนย้ายศพเข้ามาภายในประเทศ สำหรับศพ หรือ อัฐของผู้ถึงแก่กรรมในต่างประเทศ ที่นำเข้ามาทางอากาศยานนั้น ไม่ต้องทำใบขนสินค้าขาเข้า หรือ ใบขนสินค้าขาเข้า หรือ ใบขนสินค้าขาเข้าพิเศษฯ มีขั้นตอน ดังนี้ 1. ผู้นำเข้ายื่นหลักฐานแสดงต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร ดังนี้ 1.2 หนังสือเดินทาง (Passport) ของผู้เสียชีวิต 1.3 ต้นฉบับ หรือ สำเนาใบตราส่งสินค้าทางอากาศยาน (Air Waybill) 1.4 ใบมรณะบัตรไทยซึ่งออกโดยสถานเอกอัครราชทูตไทย หรือ สถานกงสุลใหญ่ไทยในประเทศที่บุคคลดังกล่าวเสียชีวิต เอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น หนังสือรับรองการเสียชีวิต ระบุเหตุของการเสียชีวิต ซึ่งออกโดยแพทย์ หรือ โรงพยาบาล ใบมรณะบัตรที่ออกให้โดยทางการท้องถิ่นของประเทศที่บุคคลดังกล่าวเสียชีวิต 2. เจ้าหน้าที่ศุลกากรผู้รับผิดชอบของหน่วยบริการศุลกากร จะตัดบัญชีสินค้าทางอากาศยาน และ ตรวจปล่อยไปได้ โดยให้ผู้นำเข้าลงชื่อรับไว้เป็นหลักฐานในเอกสารการรับสินค้า และ ต้องจัดให้มีสมุดบัญชี ลงทะเบียนควบคุม การเตรียมการ และ จัดการเคลื่อนย้ายศพต้องกระทำในบรรยากาศที่เสมอภาพ และ เป็นกันเองต่อความเจ็บปวดที่ค้างคาวอยู่ในใจของคนในครอบครัว. การให้การสนับสนุนแ ละ ความเข้าใจในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้จะเป็นการสร้างความทรงจำที่ดี และ เป็นที่นึกถึงของคนที่เสียชีวิต ซึ่งหากจะเป็นการดี ถ้าใช้บริการ ตัวแทนจัดเตรียมสำหรับการเคลื่อนย้ายศพ จากบริษัทผู้เชี่ยวชาญ และ มีประสบการณ์ จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่ช่วยให้คุณสามารถดำเนินการจัดเตรียมสำหรับการเคลื่อนย้ายศพ ได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งทาง บลู แอสซิสแท็นซ เป็นตัวแทนจัดเตรียมสำหรับการเคลื่อนย้ายศพ โดยมีเครือข่าย และ มีสำนักงานใหญ่คือ "Blue Ground Co., Ltd." (บริษัทท่องเที่ยว) นอกจากนี้ภายใต้แนวคิดที่ต้องการให้ความช่วยเหลือบริษัทญี่ปุ่น เรายังมีบริการให้คำปรึกษา เช่น ตัวแทนยื่นขอวีซ่าประเภทต่าง ๆ และ ตัวแทนยื่นขอใบอนุญาตทำงาน ฯลฯ อีกด้วย บริการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับวีซ่า และ ใบอนุญาตทำงาน คุณสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลการให้บริการได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-661-7687-88 หรือ ที่ Email : [email protected] (งานช่วยเหลือทางการแพทย์) Website : https://www.blue-assistance.co.th/th/ Website Profile : https://www.at-once.info/th/visa-support/cp/blue-assistance

  • 28-03-24
  • 284

การไปทำงานที่ต่างประเทศนั้น ไม่ใช่แค่เป็นการเปิดโอกาสให้กับตัวเอง ยังสามารถสร้างประสบการณ์ในการทำงานที่แปลกใหม่โดยสภาพแวดล้อมที่แตกต่างไปจากประเทศของตัวเอง อีกทั้งยังสามารถสร้างรายได้ สร้างอนาคตให้กับตัวเองได้ และสิ่งที่ต้องควรรู้เกี่ยวกับการไปทำงานที่ต่างประเทศเลยก็คือ ใบอนุญาตทำงานคืออะไร และ จะต้องทราบถึงในส่วนไหนบ้างก่อนตัดสินใจไปทำงานที่ต่างประเทศครับ ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) คืออะไร ใบอนุญาตทำงานนั้น คือ ใบอนุญาตที่ใช้เพื่อประกอบอาชีพของชาวต่างชาติ เป็นเอกสารที่สำคัญของชาวต่างชาติเมื่อต้องเดินทางไปทำงานในประเทศอื่นๆ เพื่อทำธุรกิจ กิจการต่างๆ หรือการเป็นลูกจ้างตามระยะเวลาของสัญญา โดยเหล่านายจ้างนั้นจะเป็นผู้ดำเนินการขอใบอนุญาตทำงานให้ โดยจะต้องได้รับการอนุมัติจากกระทรวงแรงงานของรประเทศนั้นๆ เมื่อใบอนุญาตทำงานหมดอายุ จะต้องทำการต่อใหม่ทันที และ หากลูกจ้างมีการปรับเปลี่ยนงาน ปรับเปลี่ยนนายจ้าง ก็จะต้องดำเนินการขอใบอนุญาตทำงานใหม่อีกครั้ง ซึ่งการไปทำงานที่ต่างประเทศนั้น มักจะพบกับคำถามที่ว่า “คุณมีใบอนุญาตทำงานหรือไม่” ซึ่งเป็นคำถามยอดฮิตเมื่อเราจะไปทำงานที่ต่างประเทศ ใบอนุญาตทำงานนั้นไม่ได้มีความหมายว่า หากเรามีใบอนุญาตทำงานจะสามารถทำงานได้ทุกอย่างในประเทศนั้นๆ แต่ถ้าหากมีใบอนุญาตทำงานนั้นจะมีความได้เปรียบในการสมัครงานเพราะเป็นตัวบ่งบอกว่าคุณเอง มีคุณสมบัติที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ทำให้นายจ้างใหม่ทำเรื่องในการขอใบอนุญาตได้ง่ายและมั่นใจในการรับคุณเข้าทำงานมากยิ่งขึ้น ตัวอย่าง ถ้าหากคุณนั้น มีความต้องการที่จะเดินทางไปยังประเทศจีน เพื่อเข้าทำงาน นอกจากในเรื่องทักษะของในตัวภาษาแล้ว ยังจะต้องขอวีซ่าทำงานประเภท Z ซึ่งได้ถูกกำหนดไว้ว่าจะต้องมีประสบการณ์ทำงานสายนั้น มาอย่างน้อย 2 ปี และจะต้องไม่มีประวัติอาชญากรรม โดยสิ่งที่จะต้องมีในการขอวีซ่านั้นคือ ใบอนุญาตประกอบอาชีพสำหรับชาวต่างชาติ และจดหมายเชิญจากหน่วยงานที่ประเทศจีนที่ได้รับมอบอำนาจมาเท่านั้น วีซ่าที่ขอนั้นจะมีอายุเพียง 3 เดือน เมื่อหลังเดินทางถึงจีนจำเป็นที่จะต้องขอใบอนุญาตพำนักระยะยาว เพื่อให้ได้ทำงานได้สูงสุดถึง 5 ปี "การได้ทำงานที่ต่างประเทศ นับว่าเป็นความฝันของใครหลายๆคน" สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจไปทำงานยังต่างประเทศ 1.เรื่องเอกสาร เอกสารและหลักฐานที่แสดงว่าไปทำงานได้อย่างถูกกฎหมาย สิ่งที่จำเป็นเลยก็คือ วีซ่าและใบอนุญาตทำงาน ส่วนในตัวเอกสารอื่นๆนั้น ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของนายจ้างแต่ละคนและแต่ละประเทศ ซึ่งจะแตกต่างกันออกไป แต่อย่างไรก็จะต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ทางการของรัฐบาลประเทศนั้นๆ 2.ภาษาต้องพร้อม ภาษาสากลนั้นก็คือภาษาอังกฤษ ที่เราจะต้องมีความชำนาญและได้สื่อสารหรือใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าหากเราไปทำงานที่ประเทศอื่นๆ เช่น จีน ใต้หวัน เยอรมัน เกาหลี สเปน หรือ ฝรั่งเศส ล้วนแต่มีภาษาประจำชาติของตัวเอง การที่เราสามารถพูดภาษาประจำชาติของประเทศที่เราจะไปทำงานนั้น เป็นสิ่งที่นายจ้างจะนำมาพิจารณาในการจ้างงาน และได้เปรียบกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ 3.ทักษะในการทำงาน การที่เรามีความรู้และประสบการณ์ในอาชีพนั้นๆ มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการไปทำงานต่างประเทศ จะช่วยให้นายจ้างตกลงที่จะจ้างคุณ อีกทั้งต่างประเทศยังมีสาขาอาชีพที่ขาดแคลนแรงงาน หรือ สาขาอาชีพที่จะต้องใช้ความรู้ ความชำนาญเฉพาะ สาขาอาชีพเหล่านี้ยังให้ผลตอบแทนที่ดีอีกด้วย 4.ควรวางแผนค่าใช้จ่าย เมื่อนายจ้างตอบตกลงรับเข้าทำงานแล้วนั้น ควรจะต้องคำนวณในส่วนของค่าใช้จ่ายอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นของส่วนเงินเดือน ค่าที่พัก ค่าครองชีพ ภาษีที่จะต้องจ่าย และค่าจิปาถะต่างๆในชีวิตประจำวัน ซึ่งค่าครองชีพในแต่ละประเทศนั้นมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง จึงจำเป็นที่จะต้องคำนวณค่าใช้จ่ายให้ดี 5.เงื่อนไขการทำงานต้องเคร่งครัด นายจ้าง หรือ บริษัท ในแต่ละที่นั้น จะมีเงื่อนไขการทำงานที่แตกต่างกันออกไป ทั้งชั่วโมงการทำงาน วันหยุด การลา สวัสดิการ หรือ ประกันสุขภาพต่างๆ รวมถึงกฎระเบียบต่างๆในการทำงาน เราจะต้องนำมาพิจารณาและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่อาจจะตามมาได้ 6.เตรียมตัวเรื่องสุขภาพ หากสุขภาพของเราไม่แข็งแรง มีโรคประจำตัว หรือมีโรคต้องห้ามในการไปทำงานต่างประเทศ เราจะต้องทำการพิจารณาตัวเองให้ดีก่อนไปทำงานยังต่างประเทศ เพื่อจะให้ไม่เกิดปัญหาหรือเสียเวลา 7.ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม จะต้องไม่เคยต้องโทษจำคุกในความผิดตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง หรือ เคยต้องโทษในคดียาเสพติดต่างๆ เพราะฉะนั้นจะไม่ได้รับอนุญาตให้ไปทำงานในต่างประเทศได้ การเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ ถือว่าเป็นความฝันของใครหลายๆคน แต่อาจจะมีข้อกังวลในเรื่องของเอกสาร ใบอนุญาตทำงาน หรือ วีซ่า ต่างๆ แน่นอนว่าคุณควรใช้บริการจากบริษัทผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เพื่อลดระยะเวลา และ ลดข้อผิดพลาด ในการออกเอกสาร อย่างเช่น บริษัท เอ.เอ็น.เอ็ม.2219 บิสซิเนส จำกัด เนื่องจาก บริษัท เอ.เอ็น.เอ็ม.2219 บิสซิเนส จำกัด เป็นผู้ให้บริการ ขอใบอนุญาตทำงานและวีซ่าทำงานให้กับชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ดำเนินการเปลี่ยนวีซ่าทุกประเภทและต่อวีซ่าทำงานให้กับชาวต่างชาติ รับขอโค้วต้าให้กับต่างชาติ 3 สัญชาติ โดยทีมงานที่มีประสบการณ์โดยตรงด้วยมาตราฐานและตามระเบียบข้อบังคับอย่างถูกต้อง และยังมีอีกหลากหลายบริการ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่เบอร์โทรศัพท์ : 02-115-2778 หรือ Line id : anm2219 Website : https://www.anm2219.co.th/visa.html Website Profile : https://www.at-once.info/th/visa-support/cp/anm-2219business Facebook : https://www.facebook.com/ANM2219GROUP

  • 28-03-24
  • 283

การทำใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) นั้น จะต้องทำอย่างถูกระเบียบและทำตามกฎหมาย เนื่องจากการการขอ ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ผู้ประกอบการเองจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนในการขอใบอนุญาตทำงาน พร้อมจัดเตรียมเอกสารหลักฐานให้ถูกต้อง ครบถ้วน ตามที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายที่สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 รวมถึงจะต้องดำเนินการยื่นคำขอเพื่อให้ชาวต่างชาติที่มีถิ่นฐานอยู่ในราชอาณาจักรต่อคณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมือง ผู้ประกอบการต่างๆในประเทศจึงจำเป็นที่จะต้องทราบถึงข้อกำหนดและกฎระเบียบต่างๆของการนำคนต่างชาติเข้ามาทำงานในประเทศ เรามาดูในส่วนของ คุณสมบัติ เอกสารที่จำเป็นต่อการทำใบอนุญาตทำงาน กันต่อเลยครับ คุณสมบัติของชาวต่างชาติที่จะขอ work permit -ต้องมี Non-Immigrant Visa “B” -มีความสามารถในการทำงานตามที่ได้ขออนุญาต -ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือมีจิตฟั่นเฟืองไม่สมประกอบ ไม่เป็นผู้เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อน วัณโรคในระยะสุดท้าย โรคเท้าช้างในระยะอาการอันเป็นที่รังเกียจต่อสังคม โรคติดยาเสพติดให้โทษอย่างร้ายแรง โรคพิษสุราเรื้อรัง และ โรคซิฟิลิสในระยะที่ 3 -ไม่เคยต้องโทษจำคุกในความผิดตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง หรือ กฎหมายว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าวภายในระยะเวลา 1 ปี ก่อนวันขอรับใบอนุญาต เอกสารสำหรับยื่นคำขอรับใบ work permit -เอกสาร บต.25 (สามารถดาว์โหลดได้จากลิงค์ด้านล่าง) -รูปถ่ายนาด 3×4 ซม. จำนวน 3 รูป ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน (กรณีขอใหม่) -ใบรับรองแพทย์ (ไม่เกิน 1 เดือน) -ประวัติส่วนตัว วุฒิการศึกษา และประวัติการทำงาน (กรณีขอใหม่) -หนังสือเดินทางอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน -Visa Non-B (ก่อนหมดอายุ 45-60 วัน) และ Work Permit (กรณีต่ออายุ) -หนังสือรับรองแจ้งขออนุญาตให้ทำงานจากกระทรวงแรงงาน -ภงด.91 ของคนต่างชาติ (กรณีต่ออายุ) -เอกสารสำคัญของบริษัทที่จ้างงาน -เอกสารที่ใช้ประกอบการพิจารณาตามประเภทของกิจการหรือนายจ้าง "ใบอนุญาตทำงาน เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำงานของชาวต่างชาติ" ขั้นตอนในการขอ work permit เมื่อได้เตรียมเอกสารที่จำเป็นทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว พนักงานต่างชาติหรือบริษัทผู้ว่าจ้างจะต้องยื่นเอกสารขอใบอนุญาตทำงานที่กระทรวงแรงงาน แต่ถ้าหากเป็นบริษัทที่ได้รับการส่งเริมโดยบีโอไอ จะต้องมีการแจ้งขอไปที่บีโอไอก่อน จากนั้นจะมีการออกใบอนุญาตทำงานผ่านทางศูนย์บริการ One Stop Service ชาวต่างชาติที่ถือใบอนุญาตทำงานจะสามารถทำงานภายใต้บริษัทและหน้าที่ที่ได้ระบุไว้ในใบอนุญาตเท่านั้น การทำงานใดๆที่นอกเหนือจากที่ระบุไว้จะถือเป็นความผิดและมีบทลงโทษ เช่นการปรับและจำคุก นอกจากนี้ ในการรักษาใบอนุญาตให้คงอยู่จนถึงวันหมดอายุนั้น และการขอใบอนุญาตทำงานควรจะแล้วเสร็จภายใน 90 วัน ก่อนที่วีซ่าคนอยู่ชั่วคราวของชาวต่างชาติจะหมดอายุ โดยหนังสืออนุญาตทำงานจะออกให้กับชาวต่างชาติโดยกระทรวงแรงงาน ซึ่งทั้งบริษัทผู้ว่าจ้าง และบุคคลต่างชาติจะต้องมีคุณสมบัติตามที่กระทรวงแรงงานระบุไว้ เมื่อทำการยื่นเอกสารทั้งหมดแล้ว ผู้ขอใบอนุญาตจะได้รับเอกสารยืนยันที่ระบุวันที่ให้มารับใบอนุญาตทำงาน และในวันที่มารับ ชาวต่างชาติที่ขอใบอนุญาตทำงานจะต้องเดินทางมาด้วยตนเองพร้อมกับหนังสือเดินทางตัวจริง เพื่อนำมาประทับตราโดยเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน กระบวนการในการอนุมัติ Work Permit จะใช้เวลา 7-10 วันทำการหากเป็นการยื่นเอกสารที่กรุงเทพฯ แต่ในกรณีที่ดำเนินการในจังหวัดภูเก็ตอาจใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ใบอนุญาตทำงานจะมีอายุไม่เกิน 1 ปี และจะต้องมีการต่ออายุหากชาวต่างชาติยังมีความประสงค์จะทำงานในประเทศไทยต่อ ทั้งนี้เงื่อนไขอาจแตกต่างไปหากเป็นบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนโดยบีโอไอ หลังได้รับใบอนุญาตทำงานแล้ว พนักงานต่างชาติจะต้องดำเนินการขอต่อวีซ่าคนอยู่ชั่วคราวจาก 90 วัน เป็นหนึ่งปี การต่ออายุใบอนุญาตทำงาน ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) จะต้องได้รับการต่ออายุก่อนวันหมดอายุที่ระบุไว้ในใบอนุญาต โดยชาวต่างชาติและบริษัทผู้ว่าจ้างจะต้องดำเนินการต่ออายุวีซ่าของชาวต่างชาติให้เรียบร้อยเสียก่อน ซึ่งเอกสารที่ใช้ในการต่ออายุใบอนุญาตทำงานจะเป็นเอกสารชุดเดียวกันกับที่ใช้ในครั้งแรกหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการทำงานใดๆ การทำงานในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมายของชาวต่างชาติ สิ่งสำคัญที่ต้องมีนอกเหนือจากวีซ่า Non-B คือใบอนุญาตทำงาน work permit ซึ่งทั้งสองนี้จะใช้ควบคู่กันไปและจะต้องมีการต่ออายุอยู่เป็นประจำ ทั้งนี้เพื่อให้ชาวต่างชาติสามารถทำงานในประเทศไทยได้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย และไม่ให้เกิดเรื่องยุ่งยากกับธุรกิจที่จ้างงานซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการดำเนินธุรกิจแต่อย่างใด แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้การต่อใบอนุญาตทำงาน หรือ การขอใบอนุญาตทำงาน เป็นเรื่องง่ายคือการใช้บริการจากบริษัทผู้เชี่ยวชาญ บริษัท เอ.เอ็น.เอ็ม.2219 บิสซิเนส จำกัด เป็นผู้ให้บริการ ขอใบอนุญาตทำงานและวีซ่าทำงานให้กับชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ดำเนินการเปลี่ยนวีซ่าทุกประเภทและต่อวีซ่าทำงานให้กับชาวต่างชาติ รับขอโค้วต้าให้กับต่างชาติ 3 สัญชาติ โดยทีมงานที่มีประสบการณ์โดยตรงด้วยมาตราฐานและตามระเบียบข้อบังคับอย่างถูกต้อง และยังมีอีกหลากหลายบริการ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่เบอร์โทรศัพท์ : 02-115-2778 หรือ Line id : anm2219 Website : https://www.anm2219.co.th/visa.html Website Profile : https://www.at-once.info/th/visa-support/cp/anm-2219business Facebook : https://www.facebook.com/ANM2219GROUP

  • 25-01-24
  • 1070

ตัวแทนจัดเตรียมสำหรับการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกลับประเทศเป็นบริการที่มุ่งเน้นการประสานงานและการจัดการทุกด้านที่เกี่ยวข้องในกระบวนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยระหว่างประเทศ โดยในบทความนี้จะกล่าวถึงบริการตัวแทนจัดเตรียมที่มีการจัดการข้อมูล บริการแพทย์ และประสานงานกับหลายฝ่ายเพื่อให้กระบวนการเคลื่อนย้ายเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย นอกจากนี้ยังครอบคลุมด้านการปรึกษาและบริการสนับสนุนทางด้านพฤติกรรมผู้ป่วยที่จำเป็นในการเตรียมความพร้อมสำหรับการเคลื่อนย้าย จัดการข้อมูลและเอกสาร -ให้บริการด้านการจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเคลื่อนย้าย รวมถึงเอกสารทางการแพทย์ เอกสารการเดินทาง และเอกสารทางทะเบียน -ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น สถานทูต และหน่วยงานทางการแพทย์เพื่อตรวจสอบข้อมูลและการอนุมัติ บริการแพทย์ -จัดหาบริการแพทย์ที่เหมาะสมในประเทศต้นทางและปลายทาง เพื่อรักษาสุขภาพของผู้ป่วยในระหว่างการเคลื่อนย้าย -ประสานงานกับโรงพยาบาล แพทย์เจ้าของผลตรวจ และผู้ให้บริการทางการแพทย์อื่นๆ การปรึกษาและสนับสนุนทางด้านพฤติกรรมผู้ป่วย -ให้คำปรึกษาและข้อมูลเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมก่อนการเดินทางและหลังการเคลื่อนย้าย -สนับสนุนในด้านจิตวิทยาและปรับทัศนคติเพื่อให้ผู้ป่วยมีการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ และรู้สึกผ่อนคลายขณะเคลื่อนย้ายมากยิ่งขึ้น การประสานงาน -ประสานงานกับหลายฝ่าย เช่น สายการบิน บุคลากรในสนามบิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กระบวนการเคลื่อนย้ายเป็นไปอย่างราบรื่น -การติดต่อและประสานงานกับทีมที่ต้องการรับผู้ป่วยที่ปลายทาง ความปลอดภัย -ให้คำแนะนำและบริการที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของผู้ป่วยระหว่างการเคลื่อนย้าย -จัดทำแผนการปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการเคลื่อนย้าย บริการตัวแทนสำหรับการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกลับประเทศจะต้องดำเนินงานไปอย่างมีประสิทธิภาพซึ่งจะทำให้กระบวนการนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยทุกคนที่ต้องการการรักษาที่ต่างประเทศหรือการเคลื่อนย้ายกลับสู่บ้าน ซึ่งการใช้บริการตัวแทนสำหรับการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยนั้น จำเป็นที่จะต้องใช้บริการจากบริษัทผู้เชี่ยวชาญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากจะต้องระมัดระวังตลอดการเคลื่อนย้าย ซึ่งการใช้บริการบริการตัวแทนสำหรับการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกลับประเทศ นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้บริการจากบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญอย่างบริษัท บลู แอสซิสแท็นซ จำกัด ซึ่งทาง บลู แอสซิสแท็นซ เป็นตัวแทนชำระเงินค่าสถานพยาบาลทั่วประเทศไทย บริการดูแลผู้ป่วยโดยชาวญี่ปุ่น และบริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทั้งในและนอกประเทศ โดยมีเครือข่ายและมีสำนักงานใหญ่คือ "Blue Ground Co., Ltd." (บริษัทท่องเที่ยว) นอกจากนี้ภายใต้แนวคิดที่ต้องการให้ความช่วยเหลือบริษัทญี่ปุ่น เรายังมีบริการให้คำปรึกษา เช่น ตัวแทนยื่นขอวีซ่าประเภทต่าง ๆ และตัวแทนยื่นขอใบอนุญาตทำงาน ฯลฯ อีกด้วย บริการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน คุณสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลการให้บริการได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-661-7687-88 หรือที่ Email : [email protected] (งานช่วยเหลือทางการแพทย์) Website : https://www.blue-assistance.co.th/th/ Website Profile : https://www.at-once.info/th/visa-support/cp/blue-assistance

  • 25-01-24
  • 471

การเข้าถึงบริการรักษาพยาบาลเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชาวต่างชาติที่อาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศที่ไม่ใช่ประเทศบ้านเกิดของพวกเขา สำหรับชาวญี่ปุ่นที่มีความจำเป็นต้องการการรักษาพยาบาลในประเทศไทย บริการตัวแทนเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลเป็นทางเลือกที่สามารถช่วยให้พวกเขาได้รับบริการทางการแพทย์อย่างมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องมีความสับสนในกระบวนการและภาษาที่แตกต่าง 1. บริการตัวแทนเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลคืออะไร? บริการตัวแทนเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลเป็นบริการที่มีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือและจัดการกระบวนการทางการแพทย์ให้กับผู้ที่ต้องการรักษาพยาบาลในประเทศที่ไม่ใช่ประเทศบ้านเกิดของพวกเขา โดยการให้บริการเป็นตัวแทนระหว่างผู้ป่วยและสถาบันการแพทย์ในประเทศที่ผู้ป่วยต้องการรักษา บริการนี้ทำให้ผู้ป่วยสามารถเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่ต้องพึ่งพาภาษาและเข้าใจกระบวนการซับซ้อนทางทะเบียน 2. ประโยชน์ของบริการตัวแทนเรียกร้องค่ารักษาพยาบาล 2.1ช่วยลดภาระของผู้ป่วยในการทำกระบวนการทางทะเบียนและการเรียกร้องค่ารักษา ทำให้การรักษาพยาบาลเริ่มต้นได้รวดเร็ว 2.2บริการนี้มีคนที่เข้าใจภาษาและวัฒนธรรมของผู้ป่วย เพื่อให้การสื่อสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 2.3ช่วยผู้ป่วยในกระบวนการทะเบียนที่ซับซ้อนและติดขัดในระบบสาธารณสุขของประเทศที่ไม่ใช่ประเทศบ้านเกิด 2.4ช่วยในการปรึกษาแพทย์และเลือกสถานพยาบาลที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับความต้องการของผู้ป่วย 3. ขั้นตอนการให้บริการ 3.1ตัวแทนจะติดต่อสถานพยาบาลที่เกี่ยวข้องและประสานงานในกระบวนการรักษา 3.2ช่วยผู้ป่วยในการจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อเรียกร้องค่ารักษา 3.3ให้บริการแปลภาษาในกรณีที่ผู้ป่วยไม่เข้าใจภาษาท้องถิ่น 3.4ติดตามกระบวนการรักษาและรายละเอียดการเรียกร้องค่ารักษา 4. การเลือกบริการตัวแทนเรียกร้องค่ารักษาพยาบาล 4.1เลือกบริการที่มีความเชี่ยวชาญในการเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลสำหรับชาวญี่ปุ่น 4.2ควรเลือกบริการที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าก่อนหน้า 4.3บริการที่มีความเป็นมืออาชีพในการจัดการกระบวนการทางทะเบียนและการเรียกร้องค่ารักษา บริการตัวแทนเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลสำหรับชาวญี่ปุ่นในประเทศไทยเป็นทางเลือกที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการรักษาพยาบาลในสถานที่ที่ภาษาและวัฒนธรรมต่างกัน การเลือกบริการที่เชี่ยวชาญและไว้วางใจจะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพและปลอดภัย ซึ่งการใช้บริการตัวแทนเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้บริการจากบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญอย่างบริษัท บลู แอสซิสแท็นซ จำกัด ซึ่งทาง บลู แอสซิสแท็นซ เป็นตัวแทนชำระเงินค่าสถานพยาบาลทั่วประเทศไทย บริการดูแลผู้ป่วยโดยชาวญี่ปุ่น และบริการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทั้งในและนอกประเทศ โดยมีเครือข่ายและมีสำนักงานใหญ่คือ "Blue Ground Co., Ltd." (บริษัทท่องเที่ยว) นอกจากนี้ภายใต้แนวคิดที่ต้องการให้ความช่วยเหลือบริษัทญี่ปุ่น เรายังมีบริการให้คำปรึกษา เช่น ตัวแทนยื่นขอวีซ่าประเภทต่าง ๆ และตัวแทนยื่นขอใบอนุญาตทำงาน ฯลฯ อีกด้วย บริการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน คุณสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลการให้บริการได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-661-7687-88 หรือที่ Email : [email protected] (งานช่วยเหลือทางการแพทย์) Website : https://www.blue-assistance.co.th/th/ Website Profile : https://www.at-once.info/th/visa-support/cp/blue-assistance

  • 04-01-24
  • 542

การขอวีซ่าทำงานในประเทศไทยอาจมีขั้นตอนและกระบวนการที่ซับซ้อนบ้าง แต่ยุ่งยากหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความคุ้นเคยของผู้ที่ขอวีซ่า นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับประเภทของวีซ่าที่คุณกำลังขอและประวัติทางการเดินทางของคุณด้วย มีหลายประการที่ทำให้กระบวนการขอวีซ่าในประเทศไทยมีความซับซ้อนได้แก่ 1.ประเภทของวีซ่า -ประเทศไทยมีหลายประเภทของวีซ่า เช่น วีซ่าท่องเที่ยว, วีซ่านักศึกษา, วีซ่าทำงาน, และอื่นๆ -การขอวีซ่าแต่ละประเภทอาจมีเอกสารและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน 2.เอกสารที่จำเป็น การขอวีซ่าต้องมีเอกสารที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจรวมถึงหลักฐานแสดงรายได้, หลักฐานการทำงาน, หรือหลักฐานการศึกษาตามประเภทของวีซ่า 3.แจ้งต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ -กระบวนการขอวีซ่าทำงานต้องดำเนินการผ่านหน่วยงานที่รับผิดชอบ, เช่น สถานฑูต, สถานทูต, หรือสำนักงานการตรวจคนเข้าเมือง -ความสามารถในการประสานงานและความรวดเร็วของหน่วยงานนี้ อาจมีผลต่อความยุ่งยากของกระบวนการ อาจจะใช้ระยะเวลาพอสมควรในแต่ละขั้นตอน 4.การเปลี่ยนแปลงข้อกำหนด -ข้อกำหนดและกระบวนการขอวีซ่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามนโยบายของรัฐบาล ทำให้ความยุ่งยากเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ การทำวีซ่าทำงานในประเทศไทยไม่จำเป็นต้องยุ่งยากอย่างยิ่งถ้าคุณเตรียมเอกสารและประวัติทางการเดินทางของคุณอย่างรอบคอบ การสอบถามข้อมูลจากหน่วยงานที่รับผิดชอบก่อนการยื่นคำขอวีซ่าจะช่วยให้กระบวนการเป็นไปได้รวดเร็วและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าหากคุณใช้บริการต่อวีซ่าทำงานในประเทศไทย หรือ ต่อใบอนุญาตทำงานต่างๆ หรือทำหนังสือเดินทางใหม่ จากบริษัทผู้เชี่ยวชาญ เช่น บริษัท เอ.เอ็น.เอ็ม.2219 บิสซิเนส จำกัด จะช่วยลดความยุ่งยากให้กับตัวคุณ เนื่องจาก บริษัท เอ.เอ็น.เอ็ม.2219 บิสซิเนส จำกัด เป็นผู้ให้บริการ ขอใบอนุญาตทำงานและวีซ่าทำงานให้กับชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ดำเนินการเปลี่ยนวีซ่าทุกประเภทและต่อวีซ่าทำงานให้กับชาวต่างชาติ รับขอโค้วต้าให้กับต่างชาติ 3 สัญชาติ โดยทีมงานที่มีประสบการณ์โดยตรงด้วยมาตราฐานและตามระเบียบข้อบังคับอย่างถูกต้อง และยังมีอีกหลากหลายบริการ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่เบอร์โทรศัพท์ : 02-115-2778 หรือ Line id : anm2219 Website : https://www.anm2219.co.th/visa.html Website Profile : https://www.at-once.info/th/visa-support/cp/anm-2219business Facebook : https://www.facebook.com/ANM2219GROUP

  • 06-12-23
  • 770

หนังสือเดินทางเป็นเอกสารที่รับรองสัญชาติของผู้ถือ และเป็นเอกสารแสดงตน (identity) ของผู้ถือซึ่งออกให้โดยรัฐบาลของแต่ละประเทศสำหรับใช้เดินทางระหว่างประเทศ ข้อมูลสำคัญที่ปรากฏบนหนังสือเดินทาง ได้แก่ ชื่อ วันเดือนปีเกิด เพศ และสถานที่เกิดของผู้ถือหนังสือเดินทาง ซึ่งหนังสือเดินทางหลักๆจะแบ่งออกมาเป็น4ประเภทคือ 1. หนังสือเดินทางธรรมดา / 2. หนังสือเดินทางราชการ / 3. หนังสือเดินทางทูต และ 4. หนังสือเดินทางชั่วคราว ซึ่งในแต่ละประเภทก็ถูกใช้งานที่ไม่เหมือนกันโดยจำกัดที่ตัวบุคคล และในการเปลี่ยนหนังสือเดินทางมีขั้นตอนที่ต้องทำตามขึ้นอยู่กับประเทศที่คุณอยู่ ซึ่งในประเทศไทยเองก็มีกระบวนการต่างๆที่จะต้องดำเนินการ ดังนั้นวันนี้ทางเราจะมาแนะนำที่เป็นแนวทางทั่วไป แต่ควรตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย 1.ตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้อง ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนหนังสือเดินทางจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น สำนักงานต่างประเทศ หรือ หน่วยงานที่มีอำนาจดูแลการออกหนังสือเดินทางในประเทศของคุณ 2.เตรียมเอกสารที่จำเป็น ตรวจสอบเอกสารที่ต้องใช้เพื่อเปลี่ยนหนังสือเดินทาง เช่น หนังสือเดินทางปัจจุบัน รูปถ่าย หรือ เอกสารประกอบที่อื่น ๆ ตามที่กำหนด 3.กรอกแบบฟอร์ม กรอกแบบฟอร์มที่กำหนดโดยหน่วยงานที่รับผิดชอบ 4.ชำระค่าธรรมเนียม (ถ้ามี) ตรวจสอบว่ามีค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนหนังสือเดินทางหรือไม่ และทำการชำระค่าธรรมเนียมตามที่กำหนด 5.ส่งเอกสาร ส่งเอกสารทั้งหมดทางไปรษณีย์หรือตามวิธีที่ระบุไว้ในขั้นตอนการเปลี่ยนหนังสือเดินทาง 6.ติดตามสถานะ หลังจากส่งเอกสารทั้งหมดแล้ว ติดตามสถานะของการเปลี่ยนหนังสือเดินทางอย่างสม่ำเสมอ 7.รับหนังสือเดินทางใหม่ หลังจากที่การเปลี่ยนหนังสือเดินทางได้รับการอนุมัติ รับหนังสือเดินทางใหม่จากหน่วยงานที่รับผิดชอบ การขอคำแนะนำให้ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันทีเมื่อคุณต้องการเปลี่ยนหนังสือเดินทาง และตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการนี้ และจะเป็นการง่าย ถ้าหากคุณใช้บริการต่อวีซ่า หรือ ต่อใบอนุญาตทำงานต่างๆ หรือทำหนังสือเดินทางใหม่ จากบริษัทผู้เชี่ยวชาญ เช่น บริษัท เอ.เอ็น.เอ็ม.2219 บิสซิเนส จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ ขอใบอนุญาตทำงานและวีซ่าทำงานให้กับชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ดำเนินการเปลี่ยนวีซ่าทุกประเภทและต่อวีซ่าทำงานให้กับชาวต่างชาติ รับขอโค้วต้าให้กับต่างชาติ 3 สัญชาติ โดยทีมงานที่มีประสบการณ์โดยตรงด้วยมาตราฐานและตามระเบียบข้อบังคับอย่างถูกต้อง และยังมีอีกหลากหลายบริการ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่เบอร์โทรศัพท์ : 02-115-2778 หรือ Line id : anm2219 Website : https://www.anm2219.co.th/visa.html Website Profile : https://www.at-once.info/th/visa-support/cp/anm-2219business Facebook : https://www.facebook.com/ANM2219GROUP

  • 30-11-23
  • 987

การท่องเที่ยวเพื่อการแพทย์ หรือ "Medical Tourism" เป็นการใช้บริการด้านการแพทย์และการรักษาทางการแพทย์ในประเทศต่าง ๆ เป็นเหตุผลหนึ่งในการเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งนักท่องเที่ยวทางการแพทย์ท่องเที่ยวไปยังประเทศอื่นเพื่อรับการรักษาทางการแพทย์และบริการทางสุขภาพ เช่น การผ่าตัด, การรักษาโรคร้าย, การฟื้นฟูหลังผ่าตัด, การเสริมสวย, การฟื้นฟูจากบาดทุกข์, การรักษาทางเวชชนและการรักษาทางด้านเวชกรรมทั่วไป มีหลายประเทศที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการแพทย์ที่นิยม เช่น ประเทศไทย, อินเดีย, เวียดนาม, มาเลเซีย, สิงคโปร์, และหลายประเทศในยุโรป. คุณสมบัติที่ทำให้ประเทศเหล่านี้เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทางการแพทย์ชอบไปรับการรักษารวมถึงค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าในประเทศต้นทางของนักท่องเที่ยว ซึ่งในปัจจุบันนี้ในประเทศไทยเราเอง มี บริษัท Blue Assistance เป็นผู้ให้บริการแก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศเพื่อเดินทางไปรักษาแพทย์ทางเลือกยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ประเภทของการรักษาทางการแพทย์ที่นักท่องเที่ยวทางการแพทย์สามารถรับบริการนี้จากการท่องเที่ยวเพื่อการแพทย์ได้ -การผ่าตัด -การรักษาโรคร้าย -การฟื้นฟูหลังผ่าตัด -การศัลยกรรม -การฟื้นฟูจากบาดเจ็บ -การรักษาทางด้านเวชกรรมทั่วไป -บริการสปา ข้อดีของการใช้บริการ Medical Tourism 1.คุณภาพของการรักษา ประสิทธิภาพของการรักษาในประเทศที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการแพทย์มักมีคุณภาพสูง โรงพยาบาลและสถานที่การรักษาที่มีมาตรฐานสากลมักใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ล้ำลึกและแพทย์ที่เชี่ยวชาญ 2.ค่าใช้จ่ายที่ประหยัด ค่าใช้จ่ายในการรักษาในประเทศที่มีราคาคุ้มค่ามักมีกำหนดราคาที่เหมาะสมกว่าในหลายประเทศที่มีราคาสูง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถรับการรักษาที่มีคุณภาพสูงในราคาที่ถูกกว่า 3.ลดระยะเวลาการรอ ในบางประเทศ, ระยะเวลาการรอเพื่อรับการรักษาอาจยาวนาน การท่องเที่ยวทางการแพทย์ช่วยให้คนได้รับการรักษาโดยเร็วมากขึ้นและไม่ต้องรอนาน 4.ความเป็นส่วนตัวและการดูแลทางการแพทย์ ในสถานที่การรักษาที่เราไป ผู้ใช้บริการสามารถรับการรักษาและการดูแลทางการแพทย์ที่มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า 5.ความรวดเร็วในการฟื้นฟู มีสถานที่ท่องเที่ยวทางการแพทย์ที่เน้นการฟื้นฟูและกิจกรรมสุขภาพหลังจากการรักษา นักท่องเที่ยวสามารถรับประสบการณ์การท่องเที่ยวที่สร้างสุขภาพและทราบเทคนิคในการรักษาให้ร่างกายกลับมาฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว 6.สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม การท่องเที่ยวทางการแพทย์มักเป็นโอกาสในการสนุกสนานและสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวที่สวยงามในสถานที่ใหม่ ๆ 7.มีการดูแลรักษาหลังการรักษา บางสถานที่การรักษาจะดูแลคุณหลังจากการรักษา ให้ความช่วยเหลือและการดูแลทางการแพทย์เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยที่ได้เข้ามารักษา การท่องเที่ยวเพื่อการแพทย์มีข้อดีและข้อเสียต่าง ๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับความสอดคล้องของการรักษากับความคาดหวังของนักท่องเที่ยว ควรพิจารณาค่าใช้จ่าย, คุณภาพของการรักษา, ระยะเวลาที่จำเป็นในการเดินทาง, และความปลอดภัยก่อนตัดสินใจที่จะท่องเที่ยวเพื่อการแพทย์ในประเทศต่าง ๆ และควรปรึกษากับแพทย์ของคุณก่อนการตัดสินใจ และ ที่สำคัญ ควรปรึกษาบริษัทผู้เชี่ยวชาย เช่น Blue Assistance ที่มีประสบการณ์ จะทำให้คุณนั้นสามารถใช้บริการนี้ได้ง่ายและสะดวกเป็นอย่างมาก นับว่าเป็นตัวช่วยที่ดีตัวช่วยหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งทาง บริษัท บลู แอสซิสแท็นซ จำกัด ได้ให้บริการ ตัวแทนยื่นขอวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน เราเป็นตัวแทนในการยื่นขอวีซ่าและใบอนุญาตทำงานให้กับบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น ตัวแทนยื่นขอใบอนุญาตทำงานและวีซ่าให้กับบริษัททั่วไปและสำนักงานตัวแทน / ธุรกิจที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน BOI ตัวแทนยื่นขอใบอนุญาตทำงานและวีซ่า / ตัวแทนยื่นขอใบอนุญาตกลับเข้าประเทศ / ดำเนินการเปลี่ยนวีซ่าแต่ละประเภทในประเทศไทย / ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทและงานด้านบัญชี (โดยบริษัทบัญชีในเครือ) / ตัวแทนให้คำปรึกษาและงานตรวจสอบประเภทต่าง ๆ ครับ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลการให้บริการของ บริษัท บลู แอสซิสแท็นซ จำกัด ได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ : 02-661-7687-88 Website : www.blue-assistance.co.th Website Profile : บริษัท บลู แอสซิสแท็นซ จำกัด Facebook : Blue Assistance Co.,Ltd

  • 03-11-23
  • 649

การขอใบอนุญาตทำงานครั้งแรกต่างมีขั้นตอนและเอกสารที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายและข้อบังคับของแต่ละประเทศ ซึ่งในวันนี้ทางเราจะมาอธิบายถึงการขอใบอนุญาตทำงานในครั้งแรกนั้น มีขั้นตอนอย่างไรบ้างครับ 1.ทราบข้อกำหนดของใบอนุญาต ก่อนที่คุณจะขอใบอนุญาตทำงานครั้งแรกในประเทศที่คุณต้องการทำงานหรืออยู่ในประเทศ, ควรทราบข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับใบอนุญาตทำงานจากหน่วยงานหรือองค์กรที่รับผิดชอบ 2.ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติ ตรวจสอบว่าคุณมีคุณสมบัติที่จำเป็นในการขอใบอนุญาตทำงานในประเทศนั้น ซึ่งอาจรวมถึงการศึกษา, ประสบการณ์การทำงาน, ทักษะพิเศษ, หรือคุณสมบัติอื่น ๆ 3.กรอกแบบฟอร์มขอใบอนุญาต ในขั้นตอนนี้นับว่าเป็นขั้นตอนสำคัญ ให้กรอกแบบฟอร์มขอใบอนุญาตทำงานตามข้อกำหนดของหน่วยงานหรือองค์กรที่รับผิดชอบ 4.เสนอเอกสาร หลายประเทศอาจต้องการเอกสารเสริมเพิ่มเติม เช่น ใบสำคัญการศึกษา, ใบรับรองความรู้, รายละเอียดประสบการณ์การทำงาน, หรือเอกสารอื่น ๆ ที่ระบุไว้ในข้อกำหนด 5.ชำระค่าธรรมเนียม ระบบใบอนุญาตทำงานอาจรวมค่าธรรมเนียมในกระบวนการ คุณจะต้องชำระค่าธรรมเนียมที่กำหนด 6.รอตรวจสอบและอนุมัติ หลังจากที่คุณเสนอข้อมูลและเอกสารทั้งหมด, หน่วยงานหรือองค์กรที่รับผิดชอบจะตรวจสอบข้อมูลและพิจารณาคำขอของคุณ และจะอนุมัติหรือปฏิเสธใบอนุญาตของคุณ 7.รับใบอนุญาต หากคำขอของคุณได้รับการอนุมัติ คุณจะได้รับใบอนุญาตทำงานจากหน่วยงานหรือองค์กรที่รับผิดชอบ 8.ปฏิบัติตามข้อกำหนด เมื่อคุณได้รับใบอนุญาต, คุณควรปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ในใบอนุญาต และปฏิบัติงานหรือทำกิจกรรมในความสอดคล้องกับกฎหมายและข้อบังคับของประเทศที่คุณทำงานหรืออยู่ในนั้น แต่ทางเราแนะนำให้ใช้บริการจากบริษัทผู้เชี่ยวชาญในด้านการต่อวีซ่า ขอใบอนุญาตทำงาน เนื่องจากบริษัทเหล่านี้ มีความเชี่ยวชาญ และ ความรู้ความสามารถทำให้การต่อใบอนุญาตทำงานทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งข้อดีของการใช้บริการต่อใบอนุญาตจากบริษัท ผู้เชี่ยวชาญมีดังต่อไปนี้ 1.ความเชี่ยวชาญ บริษัทที่ให้บริการนั้นมักจะมีความเชี่ยวชาญในการขอใบอนุญาตทำงานมีความรู้และประสบการณ์ที่มากมายในการดำเนินกระบวนการนี้ ซึ่งช่วยให้คุณมั่นใจว่าคำขอของคุณจะถูกจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้อง 2.ประหยัดเวลา การมีบริษัทที่เชี่ยวชาญช่วยประสานคำขอของคุณช่วยให้คุณประหยัดเวลา ที่คุณอาจต้องใช้ในการทำความเข้าใจกฎหมายและข้อกำหนด, การเตรียมเอกสาร, และการติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3.ลดข้อผิดพลาด การใช้บริษัทเชี่ยวชาญช่วยให้คุณลดความเสี่ยงในการทำข้อผิดพลาดในกระบวนการขอใบอนุญาต ซึ่งอาจส่งผลต่อความสำเร็จและเรื่องราวในการขอใบอนุญาตของคุณ 4.คำแนะนำเชี่ยวชาญ บริษัทที่เชี่ยวชาญมักสามารถให้คำแนะนำเชี่ยวชาญเกี่ยวกับข้อกำหนด, เงื่อนไข, และวิธีการที่เหมาะสมในการขอใบอนุญาตในประเทศเป้าหมาย ซึ่งช่วยให้คุณตัดสินใจอย่างมีความรู้ 5.การประหยัดค่าใช้จ่าย การใช้บริษัทขอใบอนุญาตทำงานอาจช่วยให้คุณประหยัดเงินในระยะยาว โดยลดค่าใช้จ่ายในกระบวนการขอใบอนุญาตและลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นจากข้อผิดพลาด ขั้นตอนและข้อมูลที่ต้องทำในการขอใบอนุญาตทำงานครั้งแรกอาจแตกต่างขึ้นอยู่กับประเทศที่คุณสนใจและสาขาหรือลักษณะของงานที่คุณต้องการทำ ดังนั้น, ควรตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานหรือองค์กรที่รับผิดชอบหรือจากเว็บไซต์ทางการค้าของประเทศเป้าหมายเพื่อตรวจสอบข้อมูลที่แม่นยำและเป็นปัจจุบันสำหรับกระบวนการขอใบอนุญาตทำงานครั้งแรกของคุณ ซึ่งจะเป็นการง่าย ถ้าหากคุณใช้บริการต่อวีซ่า หรือ ต่อใบอนุญาตทำงานต่างๆ จากบริษัทผู้เชี่ยวชาญ เช่น บริษัท เอ.เอ็น.เอ็ม.2219 บิสซิเนส จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ ขอใบอนุญาตทำงานและวีซ่าทำงานให้กับชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ดำเนินการเปลี่ยนวีซ่าทุกประเภทและต่อวีซ่าทำงานให้กับชาวต่างชาติ รับขอโค้วต้าให้กับต่างชาติ 3 สัญชาติ โดยทีมงานที่มีประสบการณ์โดยตรงด้วยมาตราฐานและตามระเบียบข้อบังคับอย่างถูกต้อง และยังมีอีกหลากหลายบริการ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่เบอร์โทรศัพท์ : 02-115-2778 หรือ Line id : anm2219 Website : https://www.anm2219.co.th/visa.html Website Profile : https://www.at-once.info/th/visa-support/cp/anm-2219business Facebook : https://www.facebook.com/ANM2219GROUP

  • 24-10-23
  • 722

ในปัจจุบันมานี้ ชาวต่างชาติได้เข้ามาประกอบอาชีพ ทำงานในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก แต่จะเข้ามาทำงานเลยโดยไม่มีเอกสารก็ไม่ได้ ถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย จึงมีการยื่นขอใบอนุญาตในการทำงาน เราจึงมาอธิบายเกี่ยวกับการยื่นขอใบอนุญาตทำงานในประเทศไทยมีขั้นตอนและเอกสารที่ต้องทำการเตรียมไว้ให้ครบถ้วนตามกฎหมายของประเทศไทย ดังต่อไปนี้ครับ 1.เอกสารส่วนบุคคล -สำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีระยะเวลาใช้งานอย่างน้อย 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่คาดว่าคุณจะเดินทางมาที่ประเทศไทย -รูปถ่ายสี 2 นิ้ว x 2 นิ้ว จำนวน 3 รูป (ตามข้อกำหนดของหน่วยงานที่คุณยื่นขอใบอนุญาต) 2.เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน -ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ที่ได้รับอนุมัติจากกรมควบคุมคนต่างด้าว และสำเนาของใบนี้ -สำเนาบัตรประชาชนหรือบัตรต่างด้าว -เอกสารแสดงผลการตรวจสุขภาพ (Medical Certificate) ที่ได้รับการตรวจสอบจากสถานพยาบาลที่ได้รับการแต่งตั้งจากสถานทูตหรือจากรัฐบาลไทย -เอกสารสำหรับการสมรส (ถ้ามี) อาทิเช่น ใบสมรส หรือหลักฐานที่เกี่ยวข้อง 3.เอกสารที่เกี่ยวข้องกับบริษัทหรือนายจ้าง (สำหรับงานในบริษัท) -สำเนาหลักฐานที่บอกความสัมพันธ์ของคุณกับบริษัท เช่น สำเนาสัญญาจ้างงาน, สำเนาหลักฐานการจดทะเบียนของบริษัท, สำเนาหลักฐานการชำระเงินเงินเดือน, หรือเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง -ข้อมูลติดต่อของบริษัทและผู้ประสานงานที่สถานทูตหรือกรมควบคุมคนต่างด้าวสามารถติดต่อได้ 4.เอกสารการศึกษา (สำหรับงานที่ต้องการความรู้ทางวิชาการ) -สำเนาปริญญาบัตรหรือเอกสารการศึกษาที่เกี่ยวข้อง 5.เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการขอให้ครอบครัวอยู่ด้วย (ถ้ามี) -ใบขออนุญาตให้ครอบครัวอยู่ด้วย (Visa for Accompanying Family Members) และเอกสารที่เกี่ยวข้อง -รายชื่อสมาชิกครอบครัวและสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้อง หากคุณมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานหรือสถานที่ทำงานที่คุณสนใจ ควรติดต่อสถานทูตหรือกรมควบคุมคนต่างด้าวในประเทศไทยเพื่อขอข้อมูลและแนวทางการยื่นขอใบอนุญาตทำงานเพิ่มเติม ขั้นตอนและเอกสารอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามกฎหมายและนโยบายปัจจุบันของประเทศไทย ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากทางทูตหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในประเทศไทยอีกครั้งก่อนที่คุณจะยื่นขอใบอนุญาตทำงาน. และคุณจะได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นในการขอวีซ่า หากใช้บริการจากบริษัทที่มีความเชียวชาญและได้มาตรฐาน ซึ่งทาง บริษัท บลู แอสซิสแท็นซ จำกัด ได้ให้บริการ ตัวแทนยื่นขอวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน เราเป็นตัวแทนในการยื่นขอวีซ่าและใบอนุญาตทำงานให้กับบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น ตัวแทนยื่นขอใบอนุญาตทำงานและวีซ่าให้กับบริษัททั่วไปและสำนักงานตัวแทน / ธุรกิจที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน BOI ตัวแทนยื่นขอใบอนุญาตทำงานและวีซ่า / ตัวแทนยื่นขอใบอนุญาตกลับเข้าประเทศ / ดำเนินการเปลี่ยนวีซ่าแต่ละประเภทในประเทศไทย / ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทและงานด้านบัญชี (โดยบริษัทบัญชีในเครือ) / ตัวแทนให้คำปรึกษาและงานตรวจสอบประเภทต่าง ๆ ครับ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลการให้บริการของ บริษัท บลู แอสซิสแท็นซ จำกัด ได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ : 02-661-7687-88 Website : https://www.blue-assistance.co.th/th/ Website Profile : https://www.at-once.info/th/visa-support/cp/blue-assistance แนบลิ้งคำ -บริษัท บลู แอสซิสแท็นซ จำกัด -ใบอนุญาตทำงาน

  • 27-09-23
  • 815

ล่ามทางการแพทย์ภาษาญี่ปุ่นคืออะไร และมีหน้าที่อะไรบ้าง ล่ามทางการแพทย์ภาษาญี่ปุ่นเป็นบุคคลที่มีความรู้ความเข้าใจทั้งในด้านการแพทย์และภาษาญี่ปุ่น หน้าที่หลักของล่ามทางการแพทย์คือให้บริการการแปลและสื่อสารระหว่างแพทย์และผู้ป่วยที่ใช้ภาษาญี่ปุ่นในกระบวนการรักษาโรคหรือการรับบริการทางการแพทย์ บทความนี้จะอธิบายหน้าที่และความสำคัญของล่ามทางการแพทย์ในบริบทของระบบดูแลสุขภาพทางการแพทย์ของภาษาญี่ปุ่น เนื่องจากศัพท์ทางการแพทย์นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก จึงจะต้องใช้ล่ามที่มีความชำนาญการ ในวันนี้เรามาดูหน้าที่หลักๆของล่ามทางการแพทย์ภาษาญี่ปุ่นว่ามีหน้าที่อย่างไรบ้างครับ หน้าที่หลักของล่ามทางการแพทย์ภาษาญี่ปุ่น 1.การแปลและสื่อสาร ล่ามทางการแพทย์มีหน้าที่แปลคำพูดและเอกสารทางการแพทย์จากภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาที่แพทย์และผู้ป่วยเข้าใจได้ นอกจากนี้ยังต้องสื่อสารเชิงวิชาการเกี่ยวกับโรคภัยและการรักษาอย่างถูกต้องและชัดเจน 2.ช่วยเหลือในการประเมินสภาพ ล่ามทางการแพทย์ช่วยให้แพทย์สามารถสอบถามอาการหรือประวัติการเจ็บป่วยของผู้ป่วยในภาษาของพวกเขา นี่เป็นสิ่งสำคัญเพื่อประเมินสภาพของผู้ป่วยและให้การรักษาที่เหมาะสม 3.ประสานงานระหว่างทีมการแพทย์ ล่ามทางการแพทย์ช่วยในการประสานงานระหว่างทีมการแพทย์โดยการแปลคำพูดและข้อมูลระหว่างแพทย์และบุคคลในทีมการรักษาเพื่อให้การดูแลสุขภาพมีประสิทธิภาพ 4.การให้คำแนะนำ ล่ามทางการแพทย์อาจช่วยแปลคำแนะนำทางการแพทย์และการรักษาที่แพทย์ให้แก่ผู้ป่วย นี้สำคัญเพื่อให้ผู้ป่วยเข้าใจและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างถูกต้อง ความสำคัญของล่ามทางการแพทย์ -ช่วยให้ผู้ป่วยที่ไม่รู้เรื่องภาษาในประเทศที่ไม่ใช่ภาษาแม่ได้รับการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมและมีคุณภาพ -ช่วยลดความสับสนและข้อผิดพลาดทางการแพทย์ที่เกิดจากความเข้าใจผิดเพราะภาษา -ช่วยเพิ่มความเข้าใจและความไว้วางใจของผู้ป่วยที่มาจากวัฒนธรรมและภูมิลำเนาที่แตกต่างกัน -เป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการดูแลสุขภาพของชุมชนหรือกลุ่มคนที่มีภาษาและวัฒนธรรมต่างๆ ที่เราต้องการเข้าถึง สรุป ล่ามทางการแพทย์ภาษาญี่ปุ่นเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการสื่อสารในระบบดูแลสุขภาพ ความเข้าใจในด้านการแพทย์และภาษาญี่ปุ่นทำให้พวกเขาสามารถช่วยให้ผู้ป่วยรับบริการทางการแพทย์อย่างเหมาะสมและมีคุณภาพ หน้าที่ของล่ามทางการแพทย์คือการแปลและสื่อสารในกระบวนการรักษาโรคและการดูแลสุขภาพเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ดีที่สุด ทั้งนี้้นั้นควรเลือกใช้บริการล่ามแปลภาษาทางการแพทย์จากบริษัทที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญ เนื่องจากศัพท์ทางการแพทย์ต่างๆมีความจำเป็นละผิดเพี้ยนไม่ได้

บทความจาก AT-ONCE

ดูทั้งหมด »
SMART Visa คืออะไร แล้วมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
  • 08-11-23
  • 466

ชาวต่างชาติในประเทศไทยนั้นมีจำนวนมากที่ทำงานหรือลงทุนในไทยมาหลายปี บางคนอาจจะอยู่ที่หลัก 10ปีขึ้น แต่ก็ยังต้องขอต่อวีซ่าทำงานและใบอนุญาตทำงานทุกๆ ปี แล้วยังต้องรายงานตัวที่ตรวจคนเข้าเมืองทุก 90 วันอีก มันจะดีกว่าไหม? หากขาวต่างชาติเองสามารถที่จะเปลี่ยนจาก Non-B Visa มาเป็น Smart Visa แทน เพื่อลดระยะเวลาในการต่อวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน และรายงานตัวให้น้อยลง แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าท่านมีคุณสมบัติเข้าเงื่อนไขการขอ Smart Visa?? Wonderful Package มีข้อแนะนำให้กับทุกท่านที่สนใจในวีซ่าประเภทนี้ครับ สมาร์ทวีซ่า (SMART Visa) คืออะไร ?? และดีอย่างไร?? SMART Visa เป็นวีซ่าประเภทหนึ่งที่กำหนดขึ้นมาเป็นกรณีพิเศษ เหมาะสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการนำเงินเข้ามาลงทุนหรือมาทำงานในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุน ผู้ประกอบการ ผู้บริหารระดับสูง ผู้เชี่ยวชาญทักษะสูง รวมทั้งผู้ติดตามที่เป็นครอบครัวของบุคคลเหล่านี้ โดยกลุ่มเป้าหมายนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งใน 10 S-Curve หรืออุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศไทย อีกทั้งวีซ่าประเภทนี้ยังมีข้อดีคือสามารถลดชำระภาษีได้อีกด้วย สมาร์ทวีซ่าเหมาะกับใครบ้าง และมีคุณสมบัติอย่างไร?? 1. SMART “I” เหมาะสำหรับ : นักลงทุน (Investors) ตำแหน่ง : ประธานหรือสมาชิกคณะกรรมการ คุณสมบัติ : 1. ลงทุน 20 ล้านบาทขึ้นไป และคงการลงทุน ตลอดระยะเวลาที่ถือ Smart Visa / 2. กิจการที่ว่าจ้างจะต้องได้รับรองว่าเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายโดยรัฐ / 3. มีหนังสือรับรองการจัดตั้งหรือรับการลงทุนโดย หน่วยงานรัฐ 2. SMART “S” เหมาะสำหรับ : ผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup Entrepreneurs) ตำแหน่ง : เจ้าของบริษัท คุณสมบัติ : 1. เงินฝากประจำในบัญชี 600,000 บาทขึ้นไป / 2. มีหนังสือรับรองการเข้าร่วมโครงการหรือร่วมลงทุนโดยรัฐ / 3. จัดตั้งกิจการภายใน 1 ปี หลังจากที่ได้รับการรับรองว่าเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายโดยรัฐ / 4. กรณีมีคู่สมรสและบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายต้องมีเงินฝากประจำในบัญชีเพิ่มขึ้นอีก 180,000 บาทขึ้นไป / 5. มีกรมธรรม์ประกันสุขภาพคุ้มครองตลอดระยะเวลาที่พำนักในไทยทั้งผู้ยื่นขอ SMART visa และคู่สมรสและบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย 3. SMART “E” เหมาะสำหรับ : ผู้บริหารระดับสูง (Senior Executives) ตำแหน่ง : ประธาน หรือ กรรมการผู้จัดการ คุณสมบัติ : 1. เงินเดือน 200,000 บาทขึ้นไป / 2. มีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป / 3. ประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้องกับสายงานอย่างน้อย 10 ปี / 4. มีสัญญาจ้างงาน อย่างน้อย 1 ปี / 5. กิจการที่ว่าจ้างจะต้องได้รับรองว่าเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายโดยรัฐ 4. SMART “T” เหมาะสำหรับ : ผู้เชี่ยวชาญทักษะสูง (Talents) ตำแหน่ง : ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีความสามารถอย่างเช่น นักพัฒนาแอปพลิเคชั่นหรือวิศวกรฮาร์ดแวร์ คุณสมบัติ : 1. เงินเดือน 200,000 บาทขึ้นไป / 2. มีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป / 3. สัญญาจ้างงาน อย่างน้อย 1 ปี / 4. มีหนังสือรับรองความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากหน่วยงานรัฐ / 5. กิจการที่ว่าจ้างจะต้องได้รับรองว่าเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายโดยรัฐ 5. SMART “O” เหมาะสำหรับ : คู่สมรสและบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้ได้รับสิทธิ SMART Visa (Spouse and Children) กลุ่มเป้าหมายอุตสาหกรรมหรือ 10 S-Curve มีอะไรบ้าง? 1. การท่องเที่ยว กลุ่มรายได้ดี และเชิงสุขภาพ (Affluent, Medical and Wellness Tourism) 2. การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ (Agriculture and Biotechnology) 3. หุ่นยนต์ (Automation and Robotics) 4. การบินและโลจิสติกส์ (Aviation and Logistics) 5. เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ (Biofuels and Biochemicals) 6. ดิจิทัล (Digital) 7. การแปรรูปอาหาร (Food for the Future) 8. การแพทย์ครบวงจร (Medical Hub) 9. ยานยนต์สมัยใหม่ (Next-Generation Automotive) 10. อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ (Smart Electronics) 11. การระงับข้อพิพาททางเลือก (Alternative Dispute Resolution) 12. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Human Resource Development in Science and Technology) 13. การจัดการสิ่งแวดล้อมและพลังงานทดแทน (Environmental Management and Renewable Energy) SMART Visa เป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับผู้ที่มีความสนใจในการทำงานหรือศึกษาในประเทศไทย โดยมีรายละเอียดและเกณฑ์ที่ต้องทำความเข้าใจอย่างชัดเจนเพื่อขอรับ SMART Visa ในแต่ละระดับที่แตกต่างกัน ควรปรึกษากับหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับ SMART Visa หรือตรวจสอบข้อมูลล่าสุดในเว็บไซต์ของทางการของ SMART Visa เพื่อขอข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับการสมัคร SMART Visa Website เราเป็นผู้ให้บริการรวบรวมรายชื่อบริษัทที่ให้บริการในส่วนต่างๆอย่างครอบคลุม หนึ่งในนั้นก็คือ ให้บริการรับทำวีซ่า แปลภาษา หรือ ให้คำปรึกษาในด้านการทำวีซ่า ซึ่งคุณสามารถเข้ามาติดต่อสอบถามข้อมูลการให้บริการกับบริษัทที่คุณสนใจได้โดยตรงได้ใน At-once ซึ่งเรารับหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างบริษัทกับผู้ที่สนใจใช้บริการครับ สามารถติดต่อสอบถามหรือติดตามกิจกรรมต่างๆของเราได้ที่ Facebook ครับ

การเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ต้องเตรียมตัวอย่างไร
  • 27-10-23
  • 492

ในการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ต่างประเทศ หรือไปทำธุระต่างๆ การเตรียมตัวสำหรับการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งจะต้องเตรียมพร้อมอย่างไรบ้างจึงจะเหมาะสมมากที่สุด ในวันนี้เรามีคำตอบครับ 1.สำรวจและเข้าใจประเทศปลายทาง -ศึกษาเกี่ยวกับประเทศที่คุณจะเดินทางไป, รวมถึงภูมิประเทศ, วัฒนธรรม, ข้อกำหนดของการเข้าประเทศ, และสถานการณ์ทางการเมือง 2.ตรวจสอบเอกสารที่สำคัญ -ตรวจสอบว่าหนังสือเดินทางยังคงใช้งานได้และยังไม่หมดอายุการใช้งาน -สร้างสำเนาเอกสารสำคัญ เช่น บัตรประชาชน, บัตรประกันสุขภาพ, และบัตรเครดิต และควรติดตัวไว้เสมอ 3.ทำวัคซีนและการป้องกันโรค -ตรวจสอบว่าคุณมีวัคซีนที่จำเป็นสำหรับประเทศที่คุณจะไปหรือไม่ เพราะข้อกำหนดในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันออกไป -สอบถามเกี่ยวกับการทำประกันการรักษาพยาบาลต่างประเทศ เนื่องจากอาจเกิดเหตุฉุกเฉินหรืออันตรายได้ตลอดเวลา 4.จัดทำแผนการเงิน -ตรวจสอบธนาคารเพื่อให้ทราบถึงค่าธรรมเนียมการถอนเงินต่างประเทศ -ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนและค่าธรรมเนียมทางการเงินที่อาจเกิดขึ้น 5.จัดการที่พัก -ทำการจองที่พักล่วงหน้า เลือกที่พักที่อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวหรือสิ่งอำนวยความสะดวก -จัดทำหลักฐานการจองที่พักและติดต่อที่พักเพื่อยืนยันการจอง 6.เตรียมตัวเสื้อผ้าและอุปกรณ์ -เตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศของประเทศที่ไป -รวบรวมอุปกรณ์ท่องเที่ยวที่จำเป็น เช่น ร่ม, แว่นตากันแดด, และอุปกรณ์เดินทาง 7.หลีกเลี่ยงสิ่งที่ต้องห้าม -ควรทราบถึงข้อกำหนด ข้อห้ามที่มีอยู่ในประเทศปลายทาง ที่เราจะเดินทางไป -ห้ามนำสิ่งของหรือวัตถุอันตรายไปด้วยเด็ดขาด 8.เตรียมตัวทางการแพทย์ -นำเอกสารทางการแพทย์ เช่น ใบรับรองแพทย์, รายการยาที่ต้องทาน, และหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน -ตรวจสอบเงื่อนไขประกันการเดินทางที่คุณมี 9.เตรียมตัวทางภาษา -นำพจนานุกรมหรือแอปพลิเคชันภาษาเพื่อช่วยในการสื่อสาร -ศึกษาพื้นฐานของภาษาท้องถิ่น 10.ตรวจสอบการเดินทาง -ตรวจสอบการเดินทางทั้งหมดที่คุณจะใช้, รวมถึงตั๋วเครื่องบิน, ตั๋วรถไฟ, หรือใบอนุญาตขับรถ -อ่านคำแนะนำเกี่ยวกับการเดินทางจากทางการท่องเที่ยวหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การเตรียมตัวสำหรับการเดินทางต่างประเทศเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้การเดินทางของคุณเป็นไปได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย การเตรียมตัวอย่างถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพของการท่องเที่ยวของคุณ Website เราเป็นผู้ให้บริการรวบรวมรายชื่อบริษัทที่ให้บริการในส่วนต่างๆอย่างครอบคลุม หนึ่งในนั้นก็คือ ให้บริการรับทำวีซ่า แปลภาษา หรือ ให้คำปรึกษาในด้านการทำวีซ่า ซึ่งคุณสามารถเข้ามาติดต่อสอบถามข้อมูลการให้บริการกับบริษัทที่คุณสนใจได้โดยตรงได้ใน At-once ซึ่งเรารับหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างบริษัทกับผู้ที่สนใจใช้บริการครับ สามารถติดต่อสอบถามหรือติดตามกิจกรรมต่างๆของเราได้ที่ Facebook ครับ แนบลิ้งคำ -วีซ่า -ให้บริการรับทำวีซ่า แปลภาษา หรือ ให้คำปรึกษาในด้านการทำวีซ่า -website -facebook -atonce

อยากเรียนต่อต่างประเทศ ต้องทําอย่างไร
  • 28-09-23
  • 522

การเตรียมตัวและการสมัครเรียนต่อต่างประเทศมีขั้นตอนที่หลายขั้นตอนที่คุณต้องทำ เพราะจะต้องมีการวางแผนต่างๆ ไม่ว่าจะเรื่องของเอกสาร หรือ ความพร้อมของตน ในวันนี้เราจะมาแนะนำ 10 การเตรียมตัวกับการไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ จะต้องทำอย่างไรบ้างครับ 1.กำหนดเป้าหมาย ก่อนที่คุณจะตัดสินใจที่จะเรียนต่อต่างประเทศ คุณควรกำหนดเป้าหมายการศึกษาของคุณให้ชัดเจน เช่น คุณต้องการรับปริญญาตรีหรือรับปริญญาโท และคุณต้องการศึกษาในสาขาวิชาใด. 2.วางแผนการเรียน หลังจากกำหนดเป้าหมายการศึกษาของคุณแล้ว คุณควรวางแผนการเรียนที่เหมาะสม นี่อาจจะรวมถึงการเตรียมตัวด้วยคะแนน SAT, TOEFL, IELTS หรือภาษาที่ใช้สอบเข้ามหาวิทยาลัยของประเทศที่คุณสนใจ. 3.ค้นหาสถาบันการศึกษา คุณควรทำการวิจัยและค้นหามหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาที่คุณสนใจเรียนต่อ โดยคุณควรพิจารณาค่าธรรมเนียม โครงสร้างของหลักสูตร และความเหมาะสมของสถาบันกับเป้าหมายการศึกษาของคุณ. 4.สมัครเรียน เมื่อคุณเลือกมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาที่คุณต้องการ เปิดเผยความสนใจของคุณโดยการสมัครออนไลน์หรือผ่านแบบฟอร์มที่มหาวิทยาลัยให้ กรุณาทำตามกำหนดการสมัครและระยะเวลาที่กำหนดให้. 5.จัดเตรียมเอกสาร คุณจะต้องจัดเตรียมเอกสารที่จำเป็นสำหรับการสมัคร เช่น ใบสมัคร, ใบประวัติการศึกษา, ผลการสอบ, จดหมายแนะนำ, และเอกสารทางการเงิน. 6.สร้างแผนการเงิน การศึกษาต่างประเทศมักมีค่าใช้จ่ายสูง คุณควรสร้างแผนการเงินเพื่อรองรับค่าธรรมเนียมการศึกษา รวมถึงค่าใช้จ่ายในการอาศัยอยู่ในประเทศที่เรียน. 7.สมัครวีซ่า หากคุณจะเรียนต่อในประเทศที่ต้องการวีซ่า คุณต้องดำเนินกระบวนการสมัครวีซ่าตามกฎหมายของประเทศนั้น. 8.อาศัยอยู่ในประเทศเป้าหมาย เมื่อคุณได้รับอนุญาตให้เริ่มเรียน คุณจะต้องจัดหาที่พักและประกอบอาชีพ (หางานหรือฝึกงาน) ในประเทศที่คุณเรียนต่อ. 9.ปรับตัวและสร้างเครือข่าย การเรียนต่อต่างประเทศเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้และสร้างเครือข่ายทางวิชาการและสังคม คุณควรใช้เวลาในการปรับตัวและเริ่มสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่คุณอาศัย. 10.รักษาสุขภาพและความปลอดภัย คุณควรดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของตัวเองในต่างประเทศ รู้จักกฎระเบียบและสภาพแวดล้อมของประเทศที่คุณอาศัยอยู่. การเรียนต่อต่างประเทศเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามาก แต่มีความซับซ้อน คุณควรใช้เวลาวางแผนและเตรียมตัวอย่างดีเพื่อสามารถประสบความสำเร็จในการเรียนต่อในประเทศอื่นๆ Website เราเป็นผู้ให้บริการรวบรวมรายชื่อบริษัทที่ให้บริการในส่วนต่างๆอย่างครอบคลุม หนึ่งในนั้นก็คือ ให้บริการรับทำวีซ่า แปลภาษา หรือ ให้คำปรึกษาในด้านการทำวีซ่า ซึ่งคุณสามารถเข้ามาติดต่อสอบถามข้อมูลการให้บริการกับบริษัทที่คุณสนใจได้โดยตรงได้ใน At-once ซึ่งเรารับหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างบริษัทกับผู้ที่สนใจใช้บริการครับ สามารถติดต่อสอบถามหรือติดตามกิจกรรมต่างๆของเราได้ที่ Facebook ครับ แนบลิ้งคำ -วีซ่า -ให้บริการรับทำวีซ่า แปลภาษา หรือ ให้คำปรึกษาในด้านการทำวีซ่า -website -facebook -atonce

วีซ่าแต่งงานอังกฤษต้องมีคุณสมบัติอย่างไรและใช้เอกสารอะไรบ้าง
  • 18-09-23
  • 675

วีซ่าแต่งงานอังกฤษต้องมีคุณสมบัติอย่างไรและใช้เอกสารอะไรบ้าง วีซ่าแต่งงานอังกฤษหรือวีซ่าคู่สมรสอังกฤษนั้น คือวีซ่าสำหรับคู่รักของคนสัญชาติอังกฤษ ในปัจจุบันนี้มีคนไทยหรือคนต่างชาติ มีคู่สมรสเป็นชาวอังกฤษเพิ่มขึ้นเรื่อยๆและต้องการที่จะย้ายไปอยู่ประเทศอังกฤษถาวร ในวันนี้เราจะมาแนะกันครับว่าวีซ่าแต่งงานอังกฤษนั้นต้องมีคุณสมบัติอย่างไรและใช้เอกสารอะไรบ้างครับ คุณสมบัติของผู้ขอวีซ่าแต่งงานอังกฤษ ผู้ที่จะขอวีซ่าแต่งงานอังกฤษจะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ครับ 1.ทั้งคู่จะต้องมีอายุเกิน 18 ปี 2.ไม่ว่าคนใดคนหนึ่งจะต้องมีสัญชาติบริติช หรือ มีถิ่นอาศัยที่ถาวรอยู่ภายในสหราชอาณาจักร 3.จะต้องจดทะเบียนสมรส หรือ Civil Partnership หรือถ้าหากไม่ได้จดทะเบียนสมหรือ หรือ Civil Partnership จะต้องมีความสัมพันธ์อยู่กินกันมาเกิน 2 ปี 4.ผู้สมัครจำเป็นที่จะต้องตรวจสุขภาพแล้วผ่านเกณฑ์ 5.ผู้สมัครจะต้องผ่านการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษในระดับ A1 เป็นอย่างต่ำ 6.สปอนเซอร์ (บริติช ซิติเซ่น) จะต้องมีรายได้ผ่านเกณฑ์ที่จะรับรองคู่สมรสได้ คุณสมบัติเบื้องต้นที่ได้กล่าวมานี้ มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการพิจารณาอนุมัติวีซ่าคู่สมรสอังกฤษ เรามาดูรายการเอกสารที่ใช้ประกอบการทำวิซ่าคู่สมรสอังกฤษต่อกันเลยครับ 1.หนังสือเดินทางเล่มปัจจุบัน 2.หนังสือเดินทางเล่มเก่าทุกเล่ม 3.เอกสารส่วนตัวต่างๆของเรา เช่น ใบเกิด ทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน ทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า ใบเปลี่ยนชื่อ/นามกสุล 4.เอกสารแสดงการทำงาน ถ้าหากยังทำงานอยู่ 5.หนังสือรับรองอำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียวและคำสั่งศาล ถ้ามีกรณีจะพาบุตรที่เกิดจากความสัมพันธ์จากครั้งเก่า 6.หลักฐานความสัมพันธ์ 7.ผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ 8.ผลตรวจสุขภาพ ทางเราหวังว่า บทความข้างต้นนี้ จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจทำวีซ่าคู่สมรสอังกฤษ แต่ทั้งนี้นั้น ควรจะปรึกษากับบริษัท หรือ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านทำวีซ่า Website เราเป็นผู้ให้บริการรวบรวมรายชื่อบริษัทที่ให้บริการในส่วนต่างๆอย่างครอบคลุม หนึ่งในนั้นก็คือ ให้บริการรับทำวีซ่า แปลภาษา หรือ ให้คำปรึกษาในด้านการทำวีซ่า ซึ่งคุณสามารถเข้ามาติดต่อสอบถามข้อมูลการให้บริการกับบริษัทที่คุณสนใจได้โดยตรงได้ใน At-once ซึ่งเรารับหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างบริษัทกับผู้ที่สนใจใช้บริการครับ สามารถติดต่อสอบถามหรือติดตามกิจกรรมต่างๆของเราได้ที่ FaceBook ครับ https://www.babel-translation.com/uk-partner-spouse-visa/ https://www.at-once.info/th/visa-support/cp/good-deal-visa https://www.at-once.info/th/visa-support/cp/nt-consultant-company-limited https://www.at-once.info/th/visa-support/cp/kodmai-balance-niti https://www.at-once.info/th/visa-support/cp/greenpro-k-s-p-accounting https://www.at-once.info/th/visa-support/cp/pnp-international-legal-company-limited บริษัทขอวีซ่า บริษัทรับทําวีซ่า วีซ่าอเมริกา รับทำวีซ่า วีซ่าแต่งงาน วีซ่าธุรกิจ บริษัทรับทำวีซ่า วีซ่าทำงาน ขอวีซ่า ต่อวีซ่า วีซ่านักเรียน บริษัทรับต่อวีซ่า วีซ่าท่องเที่ยว บริษัทวีซ่า

วีซ่าเยี่ยมเยียนไม่ยากอย่างที่คิด
  • 23-08-22
  • 1013

ทาง At-once เรานั้นได้รวบรวมรายชื่อบริษัทต่างๆที่ให้บริการงานด้านวีซ่าเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมี ข้อมูลบริษัทต่างๆ รายละเอียดของบริษัท รายละเอียดของการให้บริการ รวมถึงช่องทางการติดต่อกับบริษัทนั้นๆ ที่คุณสนใจ การบริการของเรานั้นเป็นอีกช่องทางหนึ่งเพื่อให้คุณได้ค้นหาการให้บริการต่างๆกับบริษัทที่หลากหลาย เพื่อทำให้การติดต่อระหว่างคุณกับบริษัทนั้น ง่ายมากขึ้นและรวดเร็วกว่าเดิม คุณสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลการให้บริการกับบริษัทเหล่านั้นได้โดยตรงผ่านบน Website ของเรา โดยที่ทางเรานั้นเป็นเพียงตัวกลาง เพื่อให้คุณนั้นได้ข้อมูลที่ถูกต้องจากบริษัทเหล่านั้นได้อย่างชัดเจนครับ ทางเรามีความยินดีเป็นอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการให้บริการกับคุณครับ

พาเด็กๆไปเที่ยวต่างประเทศต้องทำอย่างไร
  • 23-08-22
  • 8695

บทความข้างต้นนี้ นับว่าเป็นประโยชน์แก่ พ่อแม่หรือผู้ปกครอง ที่มีความต้องการพาบุตรหลานของท่านนั้น ไปเที่ยวยังประเทศต่างๆ ทางบริษัท At-once นั้น ได้รวบรวมรายชื่อบริษัทที่ให้บริการงานด้านวีซ่าในประเภทต่างๆไว้เป็นจำนวนมาก คุณสามารถเข้ามายัง Website ของเราเพื่อทำการติดต่อสอบถามข้อมูลการให้บริการต่างๆกับบริษัทที่คุณนั้นได้สนใจ ซึ่ง Website ของเรานั้น ได้รวบรวมไม่ว่าจะเป็นรายชื่อบริษัท รายละเอียดของบริษัทนั้นๆ การให้บริการ รวมถึงช่องทางการติดต่อกับบริษัทนั้นๆ คุณสามารถติดต่อสอบถามได้โดยตรงโดยที่ไม่ผ่านทางเรา ทางเรายินดีเป็นส่วนหนึ่งในการให้บริการ เพื่อให้เป้าหมายของคุณมีผลสำเร็จสูงสุดครับ

32 ประเทศที่คนไทยไปเที่ยวได้ไม่ต้องขอวีซ่า
  • 22-08-22
  • 9876

32 ประเทศนี้ เหมาะแก่การที่คนไทยอย่างเราจะเดินทางไปเที่ยว เพื่อลดขั้นตอนการไปขอวีซ่า Website ของเรานั้นได้รวบรวมข้อมูลรายชื่อบริษัทต่างๆ ที่ให้บริการด้านวีซ่าเป็นจำนวนมาก หากคุณสนใจสามารถเข้ามายัง Website ของเรา เพื่อติดต่อสอบถามข้อมูลการให้บริการต่างๆ ในด้านวีซ่ากับบริษัทที่คุณสนใจได้เลยครับ

เที่ยวจีนครั้งแรกไปไหนดี
  • 22-08-22
  • 2203

Website ของเรานั้น ได้รวบรวมข้อมูลรายชื่อบริษัทต่างๆที่ให้บริการวีซ่าเป็นจำนวนมาก คุณสามารถเข้าไปสอบถามข้อมูลการให้บริการต่างๆเกี่ยวกับวีซ่ากับบริษัทที่คุณสนใจได้ด้วยโดนตรงครับ

เที่ยวต่างประเทศเองครั้งแรก ต้องเตรียมตัวอย่างไร
  • 19-08-22
  • 1030

ก่อนการเดินทางในทุกๆ ครั้ง นอกจะจะต้องเตรียมตัวในเรื่องต่างๆแล้วนั้น ปัจจัยหลักต้องอยู่บนความปลอดภัยในทุกๆเรื่อง ใครที่มีแพลนเที่ยวเร็วๆนี้ ทางเรา At-once ขอให้ทุกคน มีความสุขและสนุกกับการเที่ยวนะครับ

วีซ่า K-3 สหรัฐอเมริกา ใน ประเทศไทย
  • 19-08-22
  • 1283

คุณสมบัติของบุตรที่จะได้รับวีซ่า -อายุต่ำกว่า 21 ปี -ยังไม่ได้แต่งงาน -เป็นบุตรของผู้ขอวีซ่า K-3

จะทำอย่างไรเมื่อทำพาสปอร์ตหรือวีซ่าหาย
  • 18-08-22
  • 3374

ทาง At-once เรานั้น ได้รวบรวมบริษัทที่ให้บริการงานด้านวีซ่า เป็นจำนวนมาก หากคุณสนใจบริการ สามารถทำการติดต่อสอบถามข้อมูลการให้บริการต่างๆจากบริษัทที่คุณสนใจได้โดยตรงใน Website ของเราครับ

วีซ่านักเรียนอังกฤษระยะสั้น
  • 18-08-22
  • 1145

การพิจารณาใบสมัครวีซ่านักเรียนอังกฤษระยะสั้นนั้นจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่และคุณสมบัติของตัวผู้สมัครเอง ว่ามีความพร้อมและเพียงพอต่อข้อกำหนดของทางสถานทูตหรือไม่ และผู้สมัครอาจจะได้รับการออกวีซ่าตามที่ได้ยื่นคำร้องขอหรืออาจจะถูกปฏิเสธการออกวีซ่าได้หากเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วว่าคุณสมบัติยังไม่เพียงพอ ซึ่งหลักเกณฑ์ที่อาจจะถูก

บริษัทรับต่อใบอนุญาต(วีซ่า) คืออะไร

บริษัทรับต่อวีซ่า หรือ ใบอนุญาต ให้บริการคำปรึกษาในเรื่องของใบอนุญาตและวีซ่า สำหรับชาวต่างชาติและชาวไทย ให้บริการดูแลด้านวีซ่าทุกประเภท ทั้งการทำวีซ่า ทำวีซ่า รับต่อวีซ่าสำหรับชาวต่างชาติ รับต่อวีซ่าชาวต่างด้าว อีกทั้งยังให้บริการเตรียมเอกสารในการต่อวีซ่า เป็นการช่วยลดการเสียเวลาหรือความยุ่งยากในการต่อวีซ่า ช่วยให้การดำเนินการต่อวีซ่าของชาวต่างชาติเป็นไปอย่างราบรื่นพร้อมกับให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ จนเสร็จสิ้นขั้นตอน
ซึ่งวีซ่าในแต่ละประเภทนั้น ก็มีความแตกต่างกันออกไปตามสถานะการใช้งาน เรามาดูความหมายของวีซ่าและแต่ละประเภทนั้นมีอะไรบ้างกันครับ 


วีซ่าคืออะไร

วีซ่า (VISA) คือ เอกสารที่ประเทศนั้นๆได้ออกให้กับบุคคลที่ได้ผ่านการพิจารณาว่าให้สามารถเข้าประเทศนั้นๆได้  ภายในระยะเวลาหรือจุดประสงค์ที่บุคคลนั้นได้ยื่นคำร้องขอ เพื่อนำไว้ใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองขณะเข้าประเทศที่ได้ยื่นขอวีซ่า ปกติแล้วจะมีการประทับตราลงในหนังสือเดินทาง (Passport) อาจจะเป็นสติ๊กเกอร์หรือตราประทับ หรือ อาจจะอยู่ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งที่ไม่ได้ประทับลงในหนังสือเดินทาง ซึ่งปัจจุบันนี้บางประเทศมีการลงตราประทับแบบอิเล็กทรอนิกส์โดยเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

ประเภทของ วีซ่า

1.วีซ่าเดินทางผ่าน (Transit Visa)

ปกติแล้วจะมีอายุประมาณ 5 วัน เพื่อเป็นทางผ่านไปยังประเทศอื่นๆ ที่เป็นจุดหมายไม่ใช่ประเทศที่ได้รับอนุญาตซึ่งวีซ่าเดินทางผ่าน

2.วีซ่าท่องเที่ยว (Tourist Visa)

เป็นวีซ่าที่มีจุดประสงค์ในการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยว โดยไม่มีกิจกรรมทางธุรกิจมาเกี่ยวข้องระหว่างการเดินทางนั้นๆ

3.วีซ่าธุรกิจ (Business Visa)

เป็นวีซ่าเพื่อวัตถุประสงค์ในการทำการค้าหรือติดต่อธุรกิจในประเทศผู้ออกวีซ่า หรือ กิจกรรมอื่นใดอันเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ ในบางประเทศจะมีการรวมเอาการจ้างงานอย่างถาวรไว้ในอนุญาตนี้ด้วย

4.วีซ่าทำงาน ชั่วคราว (Temporary Worker Visa)

เป็นวีซ่าที่แสดงว่าบุคคลนั้นๆได้รับอนุญาตให้ทำงานในประเทศนั้นได้ชั่วคราวตามเงื่อนไขที่ระบุเอาไว้ในวีซ่า ส่วนใหญ่วีซ่าชนิดนี้จะมีขั้นตอนวิธีการปฏิบัติมาก การได้มาซึ่งวีซ่านี้จึงค่อนข้างที่จะยาก แต่ก็มีช่วงเวลาการได้รับอนุญาตที่ยาวนานกว่าวีซ่าธุรกิจ

5.วีซ่า ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (On-Arrival Visa)

เป็นวีซ่าที่ได้รับเมื่อเดินทางถึงประเทศที่เป็นจุดหมายของการเดินทาง ซึ่งจะได้รับตรงจุดตรวจคนเข้าเมือง

6.วีซ่าคู่สมรส หรือ วีซ่าแต่งงาน (Spouse Visa, Partner Visa , Marriage Visa)

เป็นวีซ่าที่อนุญาตให้คู่แต่งงานไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง เป็นคู่สมรสของผู้ถือสัญชาติของประเทศนั้นๆ สามารถที่จะเดินเข้าสู่ประเทศของอีกฝ่ายหนึ่งและได้พำนักได้ถาวรตามบุคคลในครอบครัว 

7.วีซ่าคู่หมั้น (Finance Visa , Prospective Marriage Visa , Settlement Visa ) 

เป็นวีซ่าที่อนุญาตให้คู่แต่งงานไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ที่มีความประสงค์จะเดินทางเข้าไปพำนักอยู่ในประเทศตามสัญชาติของอีกฝ่ายและจะต้องทำการสมรสผู้ถือสัญชาติของประเทศดังกล่าวภายในเวลาที่กำหนดตามวีซ่า และสามารถเดินทางเข้าสู่ประเทศของอีกฝ่ายหนึ่งและพำนักได้ถาวรตามบุคคลในครอบครัว

8.วีซ่านักเรียน (Student visitor)

เป็นวีซ่าซึ่งอนุญาตให้ทำการเรียนในประเทศที่ได้รับวีซ่านักเรียนตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ในบางประเทศอาจใช้วีซ่าท่องเที่ยวแทน

  • วีซ่านักเรียนจะแบ่งเป็น 2 แบบใหญ่ๆ 
  • แบบแรกคือ Student visitor มีระยะเวลา 0-1 ปี สำหรับน้องๆที่ต้องการไปเรียนภาษาอังกฤษโดยตรง ข้อดี คือ ข้อจัดในการทำวีซ่าน้อย แต่ ข้อเสีย คือ ไม่สามารถต่อวีซ่าที่ต่างประเทศได้ต้องกลับมาต่อที่ประเทศไทย และ ไม่สามารถทำงานได้
  • แบบที่สอง คือ tire 4 visa คือ สำหรับน้องๆ ที่ไปเรียนเป็นคอร์ส เช่น เรียนต่อปริญญา เป็นต้น ข้อดี คือ สามารถ ต่อวีซ่าที่นั้นได้ แต่ ข้อเสีย คือ ข้อจำกัดในการทำวีซ่าเยอะพอสมควร

9.วีซ่าท่องเที่ยวและทำงาน (Working Holiday Visa)

เป็นวีซ่าที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงระหว่างประเทศผู้เป็นภาคี มีสาระสำคัญคือ สามารถเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวและทำงานภายใต้เงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้

10.วีซ่าการทูต (Diplomatic Visa)

เป็นวีซ่าที่อนุญาตให้แก่ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางทางการทูตหรือเพื่อการของรัฐของประเทศนั้นๆ

11.วีซ่านักเขียน (Jounalist Visa)

เป็นวีซ่าที่อนุญาตให้กับนักเขียนหรือผู้สื่อข่าวจากหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับ

12.วีซ่าอพยพ (Immigration Visa)

เป็นวีซ่าอนุมัติให้กับผู้ที่ต้องการอพยพไปตั้งถิ่นฐานยังประเทศที่อนุญาต

13.วีซ่าผู้รับบำนาญ หรือ วีซ่าผู้เกษียณ (Pensioner Visa หรือ Retirement Visa)

เป็นวีซ่าซึ่งบางประเทศอนุญาตให้สำหรับผู้ที่สามารถแสดงตนได้ว่ามีรายได้ในต่างประเทศซึ่งไม่ใช่ประเทศที่ออกวีซ่าดังกล่าวให้ แต่ต้องเป็นจำนวนที่เพียงพอต่อการดำรงชีพ และไมมีความประสงค์ที่จะทำงานแล้ว มักจะมีข้อจำกัดอายุของผู้รับอนุญาต

วิธีการเลือกบริษัทรับทำวีซ่า

การเลือกบริษัทที่จะใช้ในการรับทำวีซ่านั้นสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากให้บริการเกี่ยวข้องกับเอกสารและข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง ซึ่งมีขั้นตอนการพิจารณาดังต่อไปนี้

1.ความน่าเชื่อถือ

ตรวจสอบประวัติและการให้บริการบริษัทที่คุณสนใจ ว่ามีความน่าเชื่อถือหรือไม่ คุณอาจจะสอบถามจากผู้ใช้บริการก่อนหน้านี้ หรือ ดูเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องของบริษัทที่คุณสนใจ

2.ประสบการณ์

จำเป็นต้องเลือกบริษัทที่มีประสบการณ์ในด้านงานวีซ่าอย่างยาวนาน เพื่อป้องกันความผิดพลาดต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ถ้าหากใช้บริการจากบริษัทที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ เนื่องจากในงานด้านวีซ่านั้น เป็นงานที่ละเอียดอ่อนและต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก

3.ค่าใช้จ่าย

ควรเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายระหว่างบริษัทต่างๆที่ให้บริการ ซึ่งในแต่ละบริษัทค่าใช้จ่ายนั้นก็มีความแตกต่างกันออกไปตามเซอร์วิสต่างๆ

การค้นหาบริษัทวีซ่าจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป หากใช้บริการ At Once ผู้นำด้านการให้บริการข้อมูลเพื่อค้นหารายชื่อบริษัทเกี่ยวกับวีซ่า บริษัทรับต่อใบอนุญาต บริการรับต่อวีซ่า บริการรับต่อใบอนุญาตทำงาน รวมถึงบริการที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ซึ่งช่วยลดระยะเวลาในการหาข้อมูลที่มากเกินความจำเป็น เพื่อให้ได้บริษัทที่ช่วยจัดการด้านวีซ่า ต่อใบอนุญาต หรือ ต่อวีซ่า ให้เป็นไปอย่างราบรื่น และเกิดความคุ้มค่าในทางธุรกิจมากที่สุด



ติดต่อขอใบเสนอราคา