ค้นหา
เชียงของ โลจิสจิกส์ E-Commerce ฮับแห่งใหม่ เชื่อม ไทย ลาว จีน

เชียงของ โลจิสจิกส์ E-Commerce ฮับแห่งใหม่ เชื่อม ไทย ลาว จีน

อนาคตสดใสหลังโควิด กระทรวงคมนาคมเดินหน้าโครงสร้างพื้นฐาน และ ขับเคลื่อนนโยบาย เพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ บนเส้นทางการค้าพื้นที่เชียงของ เพื่อยกระดับให้เป็นโลจิสติกส์ซิตี้ของภูมิภาค ช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์กับประเทศเพื่อนบ้านตลอดเส้นทาง ไทย ลาว จีน โดยโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ ระยะแรก จะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบภายในปี 2565 นี้ และ สร้างต่อเฟส 2 ให้แล้วเสร็จในปี 68

โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จะรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจอาเซียน รวมถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน ที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล พร้อมแผนการขนส่งสินค้าจากทางถนนสู่ระบบรางตามแผนการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย เชียงราย เชียงของ และหนึ่งในนโยบายที่ภาครัฐที่ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเลยก็คือ ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจข้ามพรมแดนในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง-ล้านช้าง ซึ่งจะประกอบไปด้วยสมากชิกทั้ง 6 ประเทศ คือ ลาว เมียนมา ไทย กัมพูชา และ จีน ตั้งแต่ปี 2558 ที่ทางรัฐได้พัฒนาการอำนวยความสะดวกทางการค้าตามแนวชายแดน เช่น พิธีการศุลกากร เพื่อช่วยให้การปล่อยสินค้าคล่องตัว เพิ่มประสิทธิภาพการบริการโลจิสติกส์ ลดต้นทุน ผู้ประกอบการ ซึ่งจะแล้วเสร็จสมบูรณ์สิ้นปีนี้ โดยมีขั้นตอนต่อจากนี้ คือการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษเชียงของ โดนกระทรวงพาณิชย์

เชียงของ

เป้าหมายของข้อเสนอเชิงนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษเชียงของ

  1. เชียงของเป็นศูนย์กลางโลจิกติกส์ของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน (Cross Border e-Commerce : CBEC)
  2. ส่งเสริมการส่งออกสินค้าไทยและอาเซียน ผ่านเส้นทาง R3A และ เขตการค้าเสรีคุนหมิง
  3. ยกระดับการค้าสู่พื้นที่จีนตอนเหนือ และ ยุโรป ในอนาคตต่อไป

โครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของระยะแรก และ ระยะที่2 ได้รับการผลักดันจากรัฐบาลเพื่อให้สอดรับกับเป้าหมายดังกล่าว โดยมีบริเวณของโครงการอยู่ที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 ประชิดด่านพรมแดนเชียงของ โครงการระยะที่2 นั้น เป็นการสร้างอาคารเปลี่ยนถ่ายและบรรจุสินค้า และ ลานกองเก็บตู้สินค้า ที่จะรองรับเส้นทางรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตามแผนจะก่อสร้างเสร็จในปี 2568 สิทธิประโยชน์ด้านภาษีที่ไทยจะได้รับนั้น คือผลไม้อบแห้ง ชา กาแฟ เครื่องสำอาง ซึ่งจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีศุลกากร และ เสียภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีสรรพสามิตในอัตราร้อยละ 70 ของอัตรภาษีปกติ

Website  ของเรานั้นได้ให้บริการรวบรวมข้อมูลบริษัทต่างๆ ที่ให้บริการด้าน นำเข้า-ส่งออก โลจิสติกส์แบบครบวงจร คุณสามารถเข้าไปติดต่อสอบถามข้อมูลการให้บริการกับบริษัทที่คุณสนใจได้โดยตรง ทั้งนี้นั้นทางเราเป็นเพียงแค่ตัวกลาง ระหว่างคุณกับบริษัทที่คุณสนใจครับ

ที่มา: www.bkkterminal.com

แชร์บทความ หรือข่าวสาร

Facebook
Line
Mail