บริษัทโลจิสติกส์ บริษัทนําเข้าส่งออกสินค้า บริษัทขนส่งเอกชน

ข้อควรรู้ในการนำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ

บริษัทโลจิสติกส์ที่ให้บริการนำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างประเทศมีขั้นตอนที่ซับซ้อนมากกว่าการขนส่งภายในประเทศ จึงมีหลายสิ่งที่ควรรู้ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกบริษัท เช่น

1. ขั้นตอนการนำเข้าและส่งออก

การทำงานของบริษัทนำเข้าและส่งออกระหว่างประเทศมีหลายขั้นตอน เริ่มที่การติดต่อหน้าโรงงานเพื่อเจรจาเรื่องสินค้า จากนั้นก็บรรทุกสินค้าเพื่อส่งต่อไปยังพิธีการศุลกากรที่ต้องสำแดงสินค้า รวมถึงชี้แจงเอกสารต่าง ๆ และผ่านขั้นตอนของท่าฯ จึงจะได้รับอนุญาตให้ส่งต่อสินค้าไปยังเรือหรือเครื่องบิน และเมื่อถึงปลายทางแล้วต้องมีการผ่านพิธีการศุลกากรสินค้าขาเข้าอีกครั้ง แล้วจึงสามารถจัดส่งสินค้าไปยังผู้รับได้นั่นเอง

2. เอกสารที่จำเป็น

เอกสารที่ต้องใช้ในการนำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างประเทศมีหลายชุด เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนแรกต้องมีใบสั่งซื้อสินค้า (PO) ใบเรียกเก็บเงิน (PI) รายการราคา (CI) รายการบรรจุสินค้า (PL) ใบปล่อยสินค้า (D/O) ใบตราส่งสินค้าทางเรือ (B/L) ใบตราส่งทางอากาศ (AWB) หนังสือยืนยันถิ่นกำเนิด (C/O) ประกันภัยขนส่งสินค้า ใบขนสินค้าขาเข้าและใบขนสินค้าขาออก รวมไปถึงเอกสารอื่น ๆ เช่น ใบอนุญาตสำหรับสินค้าควบคุม (ถ้ามี) แคตตาล็อก หรือเอกสารแสดงส่วนผสม เป็นต้น

3. การเก็บภาษีศุลกากร

ในการขนส่งไม่ว่าจะเป็นนำเข้าหรือส่งออกจำเป็นต้องวางแผนให้รอบคอบและรัดกุม เพื่อให้คุ้มกับภาษีศุลกากรหรือที่เรียกว่า ‘อากร’ โดยอากรขาเข้าสามารถคำนวณได้จากราคา CIF ประกอบด้วยราคาสินค้า (Cost) ประกันภัย (Insurance) และค่าขนส่งระหว่างประเทศ (Freight) ไปรวมกับภาษีสรรพสามิตและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ และยังมีการคำนวณภาษีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าไปด้วย เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีเพื่อมหาดไทย เป็นต้น ส่วนอากรขาออกมีการกำหนดสินค้าที่ต้องเสียภาษี 9 ประเภท โดยสามารถคำนวณได้จากราคา FOB (Freight on Board) คือภาษีสรรพสามิต ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ รวมกันนั่นเอง

4. ปัญหาที่พบ

บริษัทนำเข้าส่งออกสินค้าอาจพบปัญหาที่ทำให้ต้องตามแก้ไขอยู่หลายจุด ตัวอย่างเช่น การสูญหายของสินค้าระหว่างการจัดส่ง การส่งสินค้าไม่ทันซึ่งอาจเกิดจากความล่าช้าของผู้ผลิต หรือความไม่รอบคอบในการวางแผน เอกสารไม่ครบ ใบอนุญาตหมดอายุ รวมถึงอาจเจอปัญหาที่ไม่คาดคิด เช่น เกิดพายุ มรสุม ภัยธรรมชาติ หรือเรือเสีย เรือล่ม ทั้งนี้การเลือกบริษัทนำเข้าส่งออกระหว่างประเทศที่มีประสบการณ์จะลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาเหล่านี้ลงไปได้มากทีเดียว

วิธีการเลือกบริษัทโลจิสติกส์และบริษัทขนส่งสินค้าเอกชน

บริษัทโลจิสติกส์และบริษัทรับขนส่งสินค้าทุกบริษัทมีจุดแข็งและจุดขายที่โดดเด่นแตกต่างกันออกไป ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการควรคำนึงถึงปัจจัยหลายอย่าง เพื่อให้การเลือกใช้บริการบริษัทขนส่งโลจิสติกส์เป็นไปอย่างคุ้มค่ามากที่สุด โดยพิจารณาได้จากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

1. เหมาะสมกับสินค้า

ในการเลือกบริษัทโลจิสติกส์และบริษัทขนส่งเอกชน ควรให้ความสำคัญกับสินค้าหรือบริการเป็นอันดับแรก เนื่องจากสินค้าแต่ละชนิดแตกต่างและมีวิธีการดูแลระหว่างการจัดส่งที่ไม่เหมือนกัน เช่น หากสินค้าเป็นของสดหรืออาหารแช่แข็งก็ควรพิจารณาบริษัทขนส่งที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ หากเป็นสินค้าขนาดใหญ่ก็ควรพิจารณาบริษัทขนส่งที่ให้บริการด้วยรถที่สามารถบรรทุกสินค้านั้น ๆ ได้ เช่น รถบรรทุก 6 ล้อ หรือ 10 ล้อ คอนเทนเนอร์

2. ให้บริการในหลายพื้นที่

หากบริษัทโลจิสติกส์และบริษัทขนส่งเอกชนที่เลือกไม่สามารถจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าได้ เพราะไม่มีการบริการในเขตพื้นที่นั้น นับเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดปัญหาตามมาแน่นอน จนอาจถึงขั้นเสียฐานลูกค้าในพื้นที่นั้นไปเลยก็ได้ จึงจำเป็นต้องพิจารณาจากความครอบคลุมในการให้บริการ ยิ่งมีพื้นที่ครอบคลุมมากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นการขยายขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้าได้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น

3. จัดส่งได้รวดเร็ว

บริษัทขนส่งที่เลือกควรให้บริการจัดส่งสินค้าด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ เนื่องจากสิ่งนี้สามารถช่วยให้ลูกค้าเกิดความประทับใจในการบริการด้วย ทั้งนี้สินค้าที่จัดส่งจะต้องคงอยู่ในสภาพเดิม ไม่ชำรุด บุบ หรือเกิดความเสียหายระหว่างการขนส่ง เพื่อเป็นการแสดงถึงความมีประสิทธิภาพในการทำงานให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด

4. ราคาเป็นมิตร

ราคาคือหนึ่งในคุณสมบัติที่หลายธุรกิจไม่สามารถมองข้ามได้ ถ้าราคายิ่งสูงก็ยิ่งส่งผลให้กำไรที่ได้อาจน้อยลงไปด้วย ดังนั้นจึงควรเลือกบริษัทรับขนส่งสินค้าที่ไม่แพงเกินไป ทั้งนี้ในความเป็นจริงแล้วราคาที่เป็นมิตรนั้นอาจไม่จำเป็นต้องถูก แต่ควรมีความเหมาะสมกับบริการที่มีคุณภาพ ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้ราคาเป็นตัวตัดสินเพียงอย่างเดียวได้ ควรพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ ด้วย

5. มีความน่าเชื่อถือ

หากบริษัทโลจิสติกส์และบริษัทขนส่งเอกชนที่เลือกมีคุณสมบัติครบทั้ง 4 ข้อข้างต้นแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาร่วมด้วยนั่นคือความน่าเชื่อถือของบริษัท ที่สามารถให้บริการอย่างครอบคลุมตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ จัดการสินค้า ดูแลการตลาด และจัดส่ง ดังนั้นควรเลือกหรือหาข้อมูลบริษัทจากเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก มีประสบการณ์ และมีเครือข่ายจำนวนมาก เพื่อให้ได้บริษัทจัดส่งสินค้าที่น่าเชื่อถือไว้ใจได้นั่นเอง

การค้นหาบริษัทโลจิสติกส์จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป หากใช้บริการ At Once ผู้นำด้านการให้บริการข้อมูลเพื่อค้นหารายชื่อบริษัทเกี่ยวกับโลจิสติกส์ บริษัทนำเข้าส่งออกสินค้า บริษัทขนส่งเอกชน บริษัทขนย้าย รวมถึงบริการที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ซึ่งช่วยลดระยะเวลาในการหาข้อมูลที่มากเกินความจำเป็น เพื่อให้ได้บริษัทที่ช่วยจัดการด้านการขนส่งและกระจายสินค้าทั้งในและต่างประเทศอย่างราบรื่น และเกิดความคุ้มค่าในทางธุรกิจมากที่สุด