ค้นหา
วิธีแพ็คสินค้าอย่างไรให้ถูกต้องและสินค้าปลอดภัย

วิธีแพ็คสินค้าอย่างไรให้ถูกต้องและสินค้าปลอดภัย

ผู้เขียนบทความ : At Once
By : At Once
คุณเคยพบเจอปัญหานี้ไหม เวลาส่งสินค้าให้ลูกค้าหรือรับสินค้า รับพัสดุ แล้วของที่อยู่ภายในกับมีสภาพที่ไม่เหมือนเดิมหรือของที่อยู่ภายในเกิดความเสียหาย ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ได้รับพัสดุเกิดความรู้สึกไม่พอใจ และในวันนี้เรามีวิธีแพ็คสินค้าอย่างไรให้ถูกต้องและสินค้าปลอดภัยมาฝากกันครับ 

1.เช็คสินค้าและรายชื่อผู้ส่ง

เช็คสินค้าและรายชื่อผู้ส่ง
หากคุณเองเป็นพ่อค้าแม่ค้าและจำเป็นที่จะต้องแพ็คสินค้าส่งให้ลูกค้า การเช็คสินค้า สินค้าภายในกล่องเป็นเรื่องที่สำคัญอาจจะทำให้คุณจัดส่งสินค้าผิดได้ ดังนั้นแล้วคุณตรวจที่จะตรวจเช็คทุกครั้ง ก่อนที่จัดส่งเพื่อป้องกันความผิดพลาด นอกจากนี้คุณควรเช็ครายชื่อผู้รับกับสินค้าให้ตรงกันเพื่อป้องกันการสลับสินค้ากัน

2.เลือกใช้กล่องหรือถุงที่เหมาะสมกับสิ่งของ

เลือกใช้กล่องหรือถุงที่เหมาะสมกับสิ่งของ
การใช้กล่องหรือถุงที่เหมาะสมกับสิ่งของในการแพ็คสินค้า พัสดุ จะเป็นการช่วยปกป้องสิ่งของที่อยู่ภายในจากรอยขีดข่วนและการแตกหักได้ ลดการเสียหายจากการจัดส่ง หรือ เหตุที่ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นในระหว่างการจัดส่ง ซึ่งในการแพ็คสินค้าเราไม่ควรที่จะใช้กล่องหรือถุงที่ใช้แล้ว เพราะกล่องหรือถุงที่ผ่านการใช้งานแล้วจะมีประสิทธิภาพลดลง

3.การเลือกใช้แผ่นกันกระแทกในการแพ็คสินค้า

การเลือกใช้แผ่นกันกระแทกในการแพ็คสินค้า
แผ่นกันกระแทก เป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่จะช่วยในการปกป้องสินค้าไม่ให้เกิดการแตกได้ง่ายขึ้น หรือ สินค้าที่ต้องการปกป้องสูงเช่น จาร แก้ว แจกัน เป็นต้น ในการแพ็คสินค้าควรที่จะใช้แผ่นกันแผ่นห่อให้มิดชิด ซึ่งแผ่นกันกระแทกมีคุณสมบัติเพื่อการรองรับแรงกระแทกได้ดี จึงนิยมนำมาใช้แพ็คสินค้าที่แตกหักง่ายและมีความเสี่ยงที่จะแตก

4.การใช้เทปกาวปิดกล่องพัสดุ

การใช้เทปกาวปิดกล่องพัสดุ
นอกเหนือจากการใช้กล่องที่แข็งแรงแล้ว ยังใช้แผ่นกันกระแทก ในการแพ็คสินค้า เทปกาวเองก็มีบทบาทในการปิดกล่องสิ่งของหรือพัสดุให้แน่นหนามากขึ้น การปิดผลึกกล่องให้แน่นหนาด้วยเทปกาวนี้จะป้องกันไม่ให้ของด้านในหลุดหรือกระเด็นออกมาด้านนอกและได้รับความเสียหาย ควรเลือกใช้เทปกาวที่มีประสิทธิภาพ ไม่หลุดง่าย เพื่อความปลอดภัยตลอดการขนส่ง

5.ตรวจเช็คข้อมูล ที่อยู่ เบอร์โทรของผู้รับและผู้ส่งก่อนนำส่ง

ตรวจเช็คข้อมูล ที่อยู่ เบอร์โทรของผู้รับและผู้ส่งก่อนนำส่ง
อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือ ข้อมูล ที่อยู่ เบอร์โทรของผู้รับและผู้ส่ง เพราะในการนำส่งสินค้าส่วนใหญ่มักจะใช้บริการขนส่งซึ่งข้อมูล ที่อยู่ เบอร์โทรของผู้รับและผู้ส่ง ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญอย่างมาก หากลืมระบุไว้บริษัทขนส่งก็จะไม่ทราบได้ว่าต้องส่งสินค้านี้ไปยังสถานที่ไหนและใครเป็นผู้รับ และขณะที่ชื่อที่อยู่ของผู้ส่งก็มีความจำเป็น เพราะถ้าหากบริษัทขนส่งหาผู้รับไม่เจอก็จะส่งพัสดุกลับมาที่เรา

ที่มา: www.proindsolutions.com

แชร์บทความ หรือข่าวสาร

Facebook
Line
Mail