การขนส่งแบบผ่านศูนย์กระจายสินค้ากลาง

กลไกลการค้าในปัจจุบันนี้ มีการแข่งขันกันเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ทันท่วงที และ ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนจากเดิมอย่างมากกลายเป็นต้องการที่จะซื้อสินค้าและได้รับทันที หรือ เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และ ถ้าหากผู้ค้าไม่สามารถตอบสนองความต้องการข้อดีได้ ลูกค้าอาจจะจะไปเลือกไปใช้บริการหรือซื้อสินค้าจากทางเจ้าอื่นที่มีคุณภาพใกล้เคียงกันแต่ตอบสนองรวดเร็วกว่า ฉะนั้นแล้วการที่จะตอบสนองความต้องการลูกค้ารวดเร็ว ทางร้านค้านั้นจำเป็นที่จะต้องมีสต๊อคสินค้าในปริมาณที่มากพอที่พร้อมจะเสนอขายในทันที และที่แน่นอนว่าต้นทุนการสต๊อคสินค้าย่อมเพิ่มสูงขึ้นไปด้วย ถ้าหากระบายสินค้าไม่ทันก็จะทำให้กระทบต่อเงินหมันเวียนในกิจการได้ในระยะยาว จึงมีระบบศูนย์กระจายสินค้าเกิดขึ้น เพื่อให้เป็นตัวกลางในการตอบสนองความค้องการและจัดการระบบการขนส่งสินค้าในปัจจุบัน 

ศูนย์กระจานสินค้า หรือ Distribution Center (DC) เป็นสิ่งที่สำคัญมากในระบบการจัดการ Logistics เพราะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับกับกิจกรรมการขนส่ง เป็นตัวเชื่อมโย่งระหว่างผู้ผลิต และผู้ขายปลีก หรือเชื่อมโยงไปยังผู้บริโภคเลยก็ได้ โดยทำหน้าที่รับสินค้าจากทางผู้ผลิตแต่ละรายมาเก็บไว้ในคลังสินค้าของตน โดยดำเนินการบริหารจัดการ และมีเทคโนโลยี ในการกระจายและจัดส่งสินค้าแทนผู้ผลิตสินค้า และ ทำให้ผู้ผลิตนั้นสามารถลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งไปยังลูกค้าแต่ละราย มาเป็นการส่งที่ DC เพียงที่เดียว และ DC นี้จะมีหน้าที่กระจายสินค้าให้ อีกทั้งผู้ค้าปลีกไม่จำเป็นต้องสั่งซื้อในปริมาณมากๆ ต่อรอบการสั่งแล้วทำให้ต้องเสียค่าพื้นที่จัดเก็บ แต่สามารถเรียกเก็บสินค้าเป็นรอบๆที่ดีขึ้นแต่ปริมาณน้อยลงเพื่อประหยัดพื้นที่จัดเก็บในร้าน โดยกิจกรรมหลักๆของศูนย์กระจายสินค้ามีดังต่อไปนี้ 

1. การรับสินค้า คือการรับสินค้าที่ขนส่งมาจากทางผู้ผลิต โดยใน DC จะมีท่าเทียบสำหรับจอดรถขนส่งสินค้าแบบจำเพาะ ทำให้มีความสะดวกในการขนย้ายสินค้า
2. การจำแนกสินค้า หลังจากการรับสินค้าแล้วทาง DC จะทำการแยกสินค้าที่จะจัดส่งให้ลูกค้าลำดับถัดไปตามเงื่อนไข เช่น แยกตามระยะเวลาการจัดส่ง แยกตามประเภทของสินค้า ซึ่งโดยปกติ DC จะพิจารณาจากความต้องการของลูกค้าในแต่ละรอบการส่งล่วงหน้า เพื่อเป็นการจัดลำดับการเบิกสินค้าจากคลัง
3. การจัดส่งสินค้า หลักจากเบิกสินค้าตามคำสั่งของลุกค้า จะทำการจัดส่งขึ้นรถซึ่งอาจจะมีขนาดเล็กกว่ารถที่ผู้ผลิตขนของมาส่งให้ DC เพื่อง่ายต่อการเข้าถึงในบางพื้นที่ เพราะ DC แต่ละแห่งนี้จะต้องมีความชำนาญในพื้นที่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว นี้ก็เป็นสาเหตุที่ผู้ประกอบการควรเลือกใช้ DC แทน การขนส่งเอง เพราะจะสามารถขนส่งถึงมือลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และ  ทำให้เกิดความพึงพอใจและอยากกลับมาซื้อสินค้ากับผู้ประกอบการอีกครั้งในอนาคต

ประโยชน์ของศูนย์กระจายสินค้า

1. เป็นที่จัดเก็บสินค้า หรือ วัตถุดิบแทนผู้ผลิตหรือผู้ค้าปลีก เป็นการลดต้นทุนในการจัดเก็บสินค้า
2. สามารถตอบสนองความพึงพอใจลูกค้าได้ เนื่องจากการใช้ศูนย์กระจายสินค้าจะสามารถลดเวลาขนส่ง
3. สามารถป้องกันการขาดแคลนสินค้าที่อาจจะมีความไม่แน่นอนตามฤดูกาลและสภาวะตลาด โดยสามารถใช้คลังสินค้าในการสต๊อคสินค้าหรือวัตถุดิบจะเบิกของออกมาเป็นรอบๆตามความต้องการได้
4. ทำให้เกิดความประหยัดต่อขนาด เพราะ การมีคลังสินค้าสามารถส่งเสริมให้ผู้ค้าปลีกสามารถสั่งสินค้าได้ในปริมาณมากๆจากผู้ผลิต ทำให้ความสามารถในการต่อรองราคา โดยสั่งสินค้าทั้งหมดนั้นมาเก็บยังที่คลังสินค้าที่อยู่ในศูนย์กระจายสินค้าแล้วให้จัดส่งสินค้ามายังที่ร้านเป็นรอบๆ ตามที่ต้องการ 

หลักการเลือกใช้บริการศูนย์กระจายสินค้า 

1. เลือกบริษัทที่เชี่ยวชาญในด้านการกระจายสินค้า และมีระบบการจัดการที่ทันสมัย เชื่อถือได้ รวมถึงต้องตรวจสอบสถานะของสินค้าได้
2. เลือกศูนย์กระจายสินค้าที่มีทำเลที่สะดวก มีสาธารณูปโภคพื้นฐานครบถ้วน เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการส่งสินค้าของเราไปยังลูกค้า
3. เลือกศูนย์กระจายสินค้าที่มียานพาหนะที่รัดกุม สามารถรักษาสินค้าของเราให้อยู่ในสภาพที่ดีและปลอดภัย
4. เลือกศูนย์กระจายสินค้าที่มีราคาสมเหตุสมผล และที่สำคัญแล้วเมื่อได้คำนวณออกมา ต้องมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าที่ผู้ผลิตจะจัดส่งเอง