ค้นหา
ข้อมูลการทำวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลีย

ข้อมูลการทำวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลีย

วีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลีย คืออะไร? และต้องทำอย่างไรถึงจะให้ผ่าน? วันนี้เรามาหาคำตอบกันครับ ซึ่งบทความนี้ เราจะมาแนะนำให้คุณได้ทำความรู้จักกับการขอวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลียกัน หรือว่าเราอาจจะเรียกวีซ่าเยี่ยมเยียนประเทศออสเตรเลียก็ได้เช่นเดียวกัน ว่ามีรายละเอียด รายการเอกสาร และคุณสมบัติที่สำคัญอย่างไร เพื่อให้วีซ่าของคุณผ่านได้โดยไม่มีปัญหา

ก่อนอื่น ถ้าพูดถึงประเทศออสเตรเลียนั้นคุณจะนึกถึงอะไร ซึ่งหนึ่งในคำตอบที่น่าจะหนีไม่พ้นนั้นก็คือ จิงโจ้ และ Opera house ซึ่งซึ่งเปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของประเทศออสเตรเลียไปแล้ว

นอกจากนี้ออสเตรเลียยังมีเมืองที่น่าอยู่ที่สุดอันดับสองและสามของโลก นั้นก็คือ เมลเบิร์นและซิดนีย์ ด้วยตำแหน่งที่ตั้งของประเทศออสเตรเลียและผู้คนที่อาศัยอยู่ ณ ปัจจุบัน ทำให้ประเทศออสเตรเลียมีกลิ่นอายของวัฒนธรรมแบบตะวันตกปนตะวันออก และตั้งอยู่ไม่ไกลจากประเทศไทยมากนัก จึงทำให้เป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับนักเดินทางชาวไทย ประเทศออสเตรเลียยังขึ้นชื่อเรื่องแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวนงามทั้งแนวภูเขา ชายหาด ทะเล เกาะสวยงามมากมายหลายแห่ง ซึ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดเลยก็คือ The Great Barrier Reef  ซึ่งเป็นแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลก สามารถมองเห็นจากสถานีอวกาศนอกโลกกันเลยทีเดียว ดึงดูดนักท่องเที่ยวขาลุยให้มาดำน้ำ เล่นเซิร์ฟ ปีนเขากันได้ 

ข้อมูลเบื้องต้นที่ควรทราบก่อนทำวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลีย

ส่วนนักท่องเที่ยวขาชิล ไม่ใช่ขาลุย อยากถ่ายรูปเก๋ๆ ก็สามารถเพลิดเพลินกับแหล่งสตรีทอาร์ต และ กาแฟอันเลืองชื่อได้โดยเฉพาะเมืองเมลเบิร์น นอกจากความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ศิลปะแล้ว ประเทศออสเตรเลียยังมีระบบการศึกษาชั้นเลิศ และมีความปลอดภัยสูง เหมาะสำหรับนักเดินทางท่องเที่ยวชั่วคราว หรือนักเดินทางที่ตั้งใจจะมาเรียนต่อก็ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

ข้อมูลเบื้องต้นที่ควรทราบก่อนทำวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลีย

วีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลีย หรือวีซ่าเยี่ยมเยียนชั่วคราวคือ วีซ่าที่ใช้เพื่อการท่องเที่ยว พักผ่อน หรือเยี่ยมญาติพี่น้อง เยี่ยมแฟน เยี่ยมเพื่อน ที่อยู่ในประเทศออสเตรเลีย รวมถึงการเข้าร่วมกิจกรรมในช่วงเวลาสั้นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงาน

วีซ่าประเภทนี้จะสามารถขอได้ตามระยะเวลาดังนี้ 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี ไปจนถึง 3 ปีกันเลยทีเดียว ทั้งนี้การที่เราจะได้วีซ่านานเท่าไหร่นั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของผู้สมัคร ซึ่งโดยปกติแล้วการยื่นใบสมัครวีซ่าประเภทนี้สามารถยื่นได้ทั้งแบบออนไลน์ และ แบบเอกสารยื่นตรงต่อ VFS Australia แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้เกิดการแพร่ระบาดของ Covid-19 ทำให้ศูนย์รับยื่นเฉพาะการสมัครทางออนไลน์เท่านั้น การยื่นแบบเอกสารธรรมดาจะเปิดให้ยื่นอีกทีเมื่อไหร่นั้นจะต้องติดตามข่าวสารกันอีกที 

ซึ่งวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลียจะหน้าตาแตกต่างกันไปจากวีซ่าอเมริกาและอังกฤษ เพราะวีซ่าของประเทศออสเตรเลียจะออกมาให้ในรูปแบบจดหมายหนึ่งฉบับส่งมาทางอีเมลล์ ซึ่งถือว่าเป็นอิเล็กทรอนิคส์วีซ่า ไม่จำเป็นต้องมีหน้าวีซ่าแปะติดอยู่กับหนังสือเดินทาง ซึ่งระบบนี้เป็นระบบที่ทันสมัย เลยไม่จำเป็นว่า ตม.เค้าจะทราบถึงการมีวีซ่าของเราหรือเปล่า ซึ่งข้อมูลของคุณจะถูกส่งไประบบออนไลน์สายการบินและตม.ทันที 

ขอวีซ่าท่องเที่ยวประเทศออสเตรเลียยากไหม

สำหรับวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลีย ถือว่าไม่ยากมากนัก ซึ่งความยากง่ายนั้นจริงๆขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของผู้สมัครเองด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งสถานทูตจะพิจารณาจากหลักฐานเอกสารที่ยื่นเข้าสถานทูต และอาจจะมีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์หลังจากที่ยื่นใบสมัครไปแล้ว เพราะฉะนั้นขั้นตอนในการเตรียมเอกสารและใบสมัครค่อนข้างที่จะสำคัญมาก

ระยะเวลาในการรอผลวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลีย

ระยะเวลาในการรอผลวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลีย

วีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลียจะใช้ระยะเวลารอผลประมาณ 15 วันทำการ และหลังจากวันที่ยื่นใบสมัครไปแล้วนั้น ทั้งนี้ ระยะเวลาอาจจะเร็วหรือช้า จะขึ้นอยู่กับปริมาณของใบสมัครวีซ่าในช่วงเวลานั้น ซึ่งเราแนะนำผู้ขอวีซ่าไม่ควรจะทำการจองตั๋วเครื่องบินแบบ Non-Refund เพราะวีซ่าอาจจะออกมาไม่ทันกำหนดระยะเวลาที่จะเริ่มเดินทางได้ 

ค่าธรรมเนียมในการขอ Australia Visitor Visa

เมื่อเราจะขอวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลีย เราจะต้องเตรียมเงินไปจ่ายค่าวีซ่าด้วย และถ้าวีซ่าคุณเองไม่ผ่าน คุณก็จะไม่ได้รับเงินในส่วนนี้คืน โดยจะมีค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่า 3,150 บาท
  • ค่าธรรมเนียมทำ Biometric Finger Print 850 บาท จ่ายเป็นเงินสด ในวันที่ไปเก็บลายนิ้วมือที่ VFS 
  • ค่าส่งผลวีซ่ากลับทางไปรษณีย์ 200 บาท จ่ายเงินสด ในวันที่ไปเก็บลายนิ้วมือที่ VFS

ปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้วิซ่าท่องเที่ยวถูกปฏิเสธ

ผู้สมัครวีซ่าทุกคนไม่ใช่ว่าจะผ่านทุกคนและสามารถรับวีซ่าได้ เพราะเจ้าหน้าที่ผู้พิจารณาใบสมัคร จะต้องทำพฤติการณ์และข้อเท็จจริงของผู้สมัคร มาพิจารณาประกอบกับกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองด้วย ซึ่งเหตุผลหลักๆที่เราเจอเมื่อผู้สมัครนำใบที่ถูกปฏิเสธมาให้เราดู ก็จะเป็นดังนี้ คือมีสถานะที่ไม่มั่นคง เช่น ว่างงาน หน้าที่การงานไม่มั่นคง ประกอบอาชีพไม่มีหลักฐานชี้แจง มีเงินสะสมไม่เพียงพอ รายได้ที่มาของเงินสะสมไม่สามารถชี้แจงที่มาของเงินไม่ได้ 

คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้สมัครวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลีย

คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้สมัครวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลีย

คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้ขอวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลีย จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  1. ไม่จำกัดอายุ เพียงแต่ถ้าอายุต่ำกว่า 20 ปี อาจจะต้องขอความยินยอมจากผู้ปกครอง
  2. มีสถานะที่ค่อนข้างมั่นคงในประเทศไทย ที่จะทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้สมัครได้แล้วจะกลับ เช่น มีงานทำ หรือยังเป็นนักเรียน นักศึกษาอยู่ แต่ถ้าหากว่าเป็นแม่บ้านไม่ทำงานแต่มีสามีคอยดูแล สามารถให้สามีเป็นสปอนเซอร์ได้
  3. มีเงินมากพอที่จะไปใช้จ่ายตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่ออสเตรเลีย หรือมีสปอนเซอร์ที่มีจำนวนเงินมากพอที่จะรับรองได้

ขั้นตอนการสมัครวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลีย

การสมัครวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลีย จะแบ่งเป็นออกเป็น 2 Part ใหญ่ ตามขั้นตอนด้านล่างนี้
  1. สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครทางออนไลน์ ต้องสร้างบัญชีไว้สำหรับการสมัครวีซ่าออนไลน์ พร้อมกรอกข้อมูลระบบออนไลน์ และ อัพโหลดเอกสารทั้งหมดเข้าไปยังระบบออนไลน์ เมื่อยื่นออนไลน์และจ่ายค่าธรรมเนียมตัดบัตรเครดิตเรียบร้อยแล้ว จะมีอีเมลล์แจ้งจากทางสถานทูตให้เข้ารับการทำ Biometric Finger Print ที่ VFS Australia ที่อาคารเทรนดี้ ชั้น28 ซอยสุขุมวิท13
  2. สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครแบบยื่น Packet  ตรงต่อ VFA Australia ให้ กรอกแบบฟอร์มใบสมัคร 1419 พร้อมรวบรวมเอกสารสนับสนุนทั้งหมด จัดเรียบเรียงเป็นแพ็คเก็จเสร็จเรียบร้อย ให้ทำนัดเข้าไปในระบบเพื่อเข้ายื่นใบสมัครตามวันและเวลาที่ได้เลือกไว้ กับ VFS AUS ที่อาคารเทรนดี้ ชั้น28 ซอยสุขุมวิท13

รายการเอกสารวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลีย

การขอวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลียนั้น ทางเจ้าหน้าที่ผู้พิจารณาจะดูตามเอกสารที่คุณยื่นไปแค่เท่านั้น ซึ่งในวันที่คุณไปยื่นเอกสารจะไม่มีสัมภาษณ์เหมือนกับทางวีซ่าอเมริกา แต่อาจจะมีบ้าง ที่ทางสถานทูตจะโทรกลับมาสัมภาษณ์เพิ่มเติมในภายหลัง นั้นเพราะข้อมูลที่คุณยื่นไปยังมีข้อสงสัยว่าจะให้ผ่านหรือเปล่า และรายการเอกสารที่คุณจะต้องยื่น จะมีดังต่อไปนี้

  1. หนังสือเดินทางที่มีอยู่ นำไปทุกเล่ม (ตัวจริง)
  2. เอกสารส่วนตัวอื่นๆ เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ใบเปลี่ยนชื่อ ใบเปลี่ยนนามสกุล ทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า ใบเกิด (ในกรณีที่เป็นผู้เยาว์) หนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศ 
  3. เอกสารการเรียน ถ้าหากยังเรียนอยู่ เช่น หนังสือรับรองการเป็นนักเรียน หรือนักศึกษา ใบเกรดต่างๆ 
  4. เอกสารการงาน เช่น หนังสือรับรองการทำงาน สลิปเงินเดือน แต่ถ้าหากเป็นเจ้าของธุรกิจให้นำหนังสือรับรองบริษัทไปแสดง หรือ ทะเบียนการค้า
  5. เอกสารการเงิน เช่น Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน และ Bank Guarantee ในกรณีที่มีสปอนเซอร์ให้ขอ Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน พร้อมทั้ง Bank Guarantee ของสปอนเซอร์ด้วย ซึ่งเอกสารต้องระบุชื่อของผู้สมัคร และควรจะออกเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด
  6. สินทรัพย์อื่นๆถ้ามี เช่น สำเนาโฉนดที่ดิน คอนโดที่เป็นเจ้าของ หรือจะเป็นสำเนาทะเบียนเล่มรถยนต์ที่เป็นเจ้าของ

ที่มา: www.babel-translation.com

แชร์บทความ หรือข่าวสาร

Facebook
Line
Mail