เนื่องจากการส่งออกไตรมากแรกของปีนี้นั้นมีอัตราการขยายตัว แม้แต่ในท่ามกลางการระบาดของโควิดระลอกใหม่ โดยตัวเลขเดือนเมษายน ล่าสุดขยายตัวที่ 13% สูงสุดในรอบ 36 เดือน หรือ รอบ 3 ปี ส่งผลให้ 4 เดือน แรกปีนี้ มูลค่าส่งออกไทย ขยายตัวที่ 4.7% เมื่อได้เทียบกับปีที่แล้ว
จากปัจจัยหลัก 2 ปัจจัย คือ
- ปัจจัยจากต่างประเทศที่เศรษฐกิจและการค้าโลกฟื้นตัว
- ปัจจัยการบริการจัดการการส่งออกที่กระทรวงพาณิชย์ได้มีการวางแผนร่วมกันภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เช่น กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ปรับรูปแบบช่องทางการตลาดในหลายรูปแบบ อาทิ เช่น การเจรจาการค้าผ่านช่องทางออนไลน์ระหว่างผู้นำเข้า-ส่งออก รวม 120 กิจกรรมในปีนี้ การปรับรูปแบบการจัดการแสดงสินค้านานาชาติในประเทศไทยนั้น เป็นรูปแบบเสมือนจริง (Virtual Trade Fair) หรือรูปแบบผสมผสาน (Hybrid) เพื่อให้เกิดการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง
สินค้าที่ขยายตัวได้ดี ได้แก่
- สินค้าเกษตรและอาหาร โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ยางพารา ผักและผลไม้
- สินค้าที่เกี่ยวกับข้องกับอุปกรณ์สำนักงานต่างๆเพื่อการทำงานที่บ้าน (Work From Home) และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
- สินค้าเกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาด เช่น เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ และ ถุงมือยาง
- กลุ่มสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการผลิต เช่น เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติกต่างๆ
- สินค้าคงทนหรือสินค้าฟุ่มเฟื่อยที่มีราคาสูง เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รวมถึงอัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ )
ตลาดส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่
- สหรัฐอเมริกา
- ญี่ปุ่น
- สหภาพยุโรป
- จีน
- เกาหลีใต้
- ใต้หวัน
- เอเชียใต้ เช่น อินเดีย
- กลุ่มประเทศ CLMV
- ออสเตรเลีย
- ตะวันออกกลาง
- ลาตินอเมริกา
- รัสเซียและกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกชน (CIS)
Website ของเรานั้นได้ให้บริการรวบรวมข้อมูลบริษัทต่างๆ ที่ให้บริการด้าน นำเข้า-ส่งออก โลจิสติกส์แบบครบวงจร คุณสามารถเข้าไปติดต่อสอบถามข้อมูลการให้บริการกับบริษัทที่คุณสนใจได้โดยตรง ทั้งนี้นั้นทางเราเป็นเพียงแค่ตัวกลาง ระหว่างคุณกับบริษัทที่คุณสนใจครับ
ที่มา: www.bkkterminal.com