ค้นหา
รู้จักการ นำเข้า-ส่งออก สินค้าระหว่างประเทศ

รู้จักการ นำเข้า-ส่งออก สินค้าระหว่างประเทศ

การนำเข้า-ส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ ในปัจจุบันมีความสำคัญอย่างมาก ที่จะช่วยให้ธุรกิจเติมโตมากขึ้น เพราะผู้ที่นำเข้าสินค้า จะสามารถหาสินค้าที่มีรูปแบบใหม่ คุณภาพดี หรือราคาถูกกว่าในประเทศของตน และผู้ส่งออกสามารถขายสินค้าที่ตัวเองผลิต ไปยังประเทศต่าง ๆ ได้


การนำเข้า (Import)

การนำเข้า (Import) คือ การนำเข้าสินค้ามาจากต่างประเทศ เพื่อเข้าในประเทศ โดยสินค้าที่นำเข้า ส่วนใหญ่จะสินค้าที่มีต้นทุนถูก เป็นสินค้าที่ไม่มีในประเทศ หรือผลิตในประเทศไม่ได้ ซึ่งจะขนส่งผ่านกันมาทางเรือ ทางเครื่องบิน มักจะส่งตรงมาจากโรงงานเลย เพราะต้นทุนของสินค้าจะถูกลงกว่าตลาดทั่วไปในการนำเข้าจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และประกาศที่กรมศุลกากรและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในการนำเข้าได้หนดไว้ให้ครบถ้วน รวมถึงจัดเตรียมเอกสาร และศึกษาขั้นตอนพิธีการศุลกากรในการนำเข้าสินค้า

ในการนำเข้าจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และประกาศที่กรมศุลกากรและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในการนำเข้าได้หนดไว้ให้ครบถ้วน รวมถึงจัดเตรียมเอกสาร และศึกษาขั้นตอนพิธีการศุลกากรในการนำเข้าสินค้า

เอกสารที่ต้องใช้สำหรับการนำเข้าสินค้า

  1. ใบขนสินค้าขาเข้า (Import Declaration)
  2. ใบตราส่งสินค้าทางเรือ (B/L-Bill of Lading), ทางอากาศ (AWB-Air Way Bill)
  3. บัญชีราคาสินค้า (Invoice)
  4. บัญชีรายละเอียดบรรจุหีบห่อ (Packing List)
  5. ใบอนุญาตหรือหนังสืออนุญาตสำหรับสินค้าควบคุมการนำเข้า (ถ้ามี) (Import License)
  6. ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (กรณีขอลดอัตราอากร) (Certificates of Origin)
  7. เอกสารอื่น ๆ เช่น แคตตาล็อก เอกสารแสดงส่วนผสม ฯลฯ

การส่งออก (Export)

การส่งออก (Export) คือ การจัดส่งสินค้า หรือขายสินค้าภายในประเทศ ไปสู่ประเทศอื่น จากต้นทางไปยังปลายทาง ในทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ เป็นต้น

ในการส่งออกจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวกับข้อง คือ กรมศุลกากร เพราะในการส่งออกสินค้าแต่ละครั้งต้องผ่านพิธีการศุลกากร โดยสามารถทำได้ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยจะส่งข้อมูลเข้าระบบคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามกฎหมาย และข้อกำหนดของศุลกากรกำหนดไว้ เพื่อดำเนินการต่อให้สินค้าสามารถที่จะส่งออกได้

เอกสารที่ต้องใช้สำหรับการส่งออกสินค้า

  1. ขนสินค้าขาออก (Export Declaration)
  2. บัญชีราคาสินค้า (Invoice)
  3. ใบอนุญาตหรือหนังสืออนุญาตสำหรับสินค้าควบคุมการส่งออก (ถ้ามี) (Export License)
  4. ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (ถ้ามี) (Certificates of Origin)
  5. เอกสารอื่น ๆ เช่น แคตตาล็อก เอกสารแสดงส่วนผสม ฯลฯ

การนำเข้า-ส่งออกสินค้า ภาษีที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้า

การนำเข้า-ส่งออกสินค้า จะมีการเก็บ ภาษีศุลกากร (Customs Duty) คือ ภาษีที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้า หรือส่งออกไปต่างประเทศ ตามที่บัญญัติในกฎหมายศุลกากร และกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราศุลกากร ตลอดจนกฎหมายอื่นที่กำหนดให้เป็นอากรศุลกากร

ภาษีศุลกากรจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ อากรขาเข้า และ อากรขาออก โดยมี กรมศุลกากร เป็นหน่วยงานรับผิดชอบการจัดเก็บ

อากรขาเข้า คือ การเก็บภาษีจากสินค้าที่นำมาให้ หรือบริโภคในราชอาณาจักร ซึ่งการคำนวณค่าภาษีจะคำควณตามสภาพสินค้า ราคา และพิกัดของอัตราศุลกากร

อากรขาออก คือ การเสียภาษีหรือจ่ายค่าธรรมเนียมก่อนที่จะนำสินค้าออกจากนอกประเทศ ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ โดย ตัวแทนออกของศุลกากร เพื่อที่จะสามารถส่งสินค้าไปต่างประเทศได้ ซึ่งกรมศุลกากรมีการกำหนดให้สินค้าว่าออก

 

ที่มา: blog.giztix

แชร์บทความ หรือข่าวสาร

Facebook
Line
Mail