สื่อออนไลน์ คือ สื่อออนไลน์ หมายถึง สื่อออนไลน์ที่มีผู้ใช้เป็นผู้สื่อสาร หรือเขียนเล่าเรื่องราว เนื้อหา ประสบการณ์ บทความ รูปภาพ และวีดิโอ ที่ผู้ใช้เขียนขึ้นเอง ทำขึ้นเอง หรือพบเจอจากสื่ออื่น ๆ แล้วนำมาแบ่งปันให้กับผู้อื่นที่อยู่ในเครือข่ายของตนผ่านทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ ที่ให้บริการบนโลกออนไลน์ ปัจจุบันการสื่อสารแบบนี้จะทำผ่านทาง Internet และนิยมใช้งานบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ เครือข่ายออนไลน์ หมายถึง เครือข่ายออนไลน์ หรือเป็นการบริการที่เชื่อมโยงคนหลายคนเข้าด้วยกัน โดยผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทุกคนสามารถติดต่อสื่อสารและรับทราบข้อมูลข่าวสารได้อย่างสะดวก รวดเร็ว พัฒนาการและชนิดของสื่อออนไลน์ นับแต่มีการพัฒนาเครือข่ายคอมพิวเตอร์ความเร็วสูงขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ทำให้เกิด เว็บไซต์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สร้างและนำเสนอเนื้อหาได้ด้วยตนเองบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมากขึ้น เช่น ในปี1997 Six Degrees.com เป็นเว็บไซต์แรกที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่มีให้บริการ และตั้งแต่ปี2002เป็นต้นมา ได้มีการสร้างและขยายจำนวนสื่อสังคมออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยมีทั้งสื่อสังคมออนไลน์ที่เปิดกว้างแก่ทุกกลุ่มเป้าหมาย และเฉพาะกลุ่มผู้สนใจเฉพาะด้าน เช่น Friendster และ Hubculture ต้นทศวรรษ 2000 สื่อสังคมออนไลน์มี การขยายตัวการใช้งานหลากหลายมากขึ้น บางสื่อมีจำนวนผู้ใช้เป็นจำนวนเพิ่มมากขึ้น เช่น Facebook ในเดือนกันยายน 2560 พบว่า มีจำนวนผู้ใช้ทั่วโลก 1.19 พันล้านคน Twitter เดือนกันยายน 2560 มีจำนวนผู้ใช้ มากกว่า 230 ล้านคน เป็นต้น สื่อออนไลน์เปลี่ยนโลก และอาจเปลี่ยนชีวิตคุณ ปัจจุบันสื่อสังคมออนไลน์ (Social media หรือ Social Network) ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Line, Twitter, Google+, Instagram, YouTube และอื่น ๆ กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในวงกว้างต่อระบบการสื่อสาร ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อความสัมพันธ์กันอย่างกว้างขวาง ไม่จำกัดเวลา สถานที่และอุปกรณ์ นำพาให้พี่น้องเพื่อนฝูงญาติสนิทมิตรสหายมาพบปะเจอะเจอกัน ทำให้คนที่ไม่ชอบหรือไม่รู้จักการใช้สมาร์ทโฟนหันกลับมาเห็นความสำคัญของการใช้อุปกรณ์ประเภทนี้มากขึ้น อาจเรียกได้ว่าสื่อสังคมออนไลน์ได้ก้าวเข้ามาเปลี่ยนโลกแห่งการสื่อสารใบนี้เลยทีเดียว ในส่วนขององค์กรที่มีความเสี่ยงต่อความมั่นคงปลอดภัย รวมถึงภาพลักษณ์ขององค์กรจากคนภายนอก อันเนื่องมาจากการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของบุคลากรที่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทั้งนี้สังคมออนไลน์ก็ไม่ต่างจากสังคมของโลกความเป็นจริง ที่มีทั้งคนดี คนไม่ดี มีข่าวลับ ข่าวลวง มีสิ่งยั่วยุ มอมเมา อีกทั้งการแพร่กระจายของข้อมูลข่าวสารเป็นไปในวงกว้างอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวสารในด้านลบ ซึ่งหากมันเกิดขึ้นกับองค์กรของเราแล้วคงเป็นเรื่องยากที่แก้ไข จึงทำให้ปัจจุบันมีองค์กรหลายแห่งเริ่มหันมาสนใจในการวางกรอบแนวทางด้านสื่อสังคมออนไลน์ให้กับบุคลากรในองค์กรถือปฏิบัติ เพื่อให้ตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างมีความสุขและปลอดภัย บทสรุป บทบาทของสื่อสังคมออนไลน์จะเข้าไปมีส่วนร่วมในชีวิตประจําวันของประชาชนเพิ่มขึ้น แต่อาจ มีการเปลี่ยนแปลงการใช้ชนิดของสื่อสังคมออนไลน์ประเภทต่างๆ ไปตามกระแสความนิยมของกลุ่มผู้ใช้ กลุ่มต่างๆ และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สื่อสังคมออนไลน์มีทั้งข้อดีและ ข้อด้อย รวมทั้งอาจส่งผลกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ อาญากรรมคอมพิวเตอร์และความมั่นคง ทั้งในแง่ บวกและแง่ลบ แต่หากนําข้อดีและผลที่เกิดขึ้นในแง่ดีมาใช้ในการสื่อสารข้อมูลจากหน่วยงานราชการสู่ สาธารณะ และลดข้อด้อย รวมทั้งหาแนวทางการป้องกันผลด้านลบมิให้เกิดขึ้น สื่อสังคมออนไลน์จะเป็น อีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยสนับสนุนสื่อหลักที่มีอยู่เดิมได้เป็นอย่างดีสร้างโอกาสให้หน่วยงานราชการ สามารถสื่อสารกับสาธารณะ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายกลุ่มต่างๆ ได้มากขึ้น อ้างอิง http://www.thaiall.com/socialmedia/ https://library.wu.ac.th/km/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%97/ https://w2.med.cmu.ac.th/suandok-variety/it/1313/ http://pitikanwisetdi.blogspot.com/2016/11/blog-post.html keyword การตลาด บริษัทรับทำการตลาด, การตลาดออนไลน์, ปรึกษาการตลาดออนไลน์, ทำการตลาด, บริษัท ทำการ ตลาด, วางแผน การ ตลาด, การ ตลาด 5.0, การ ทำการ ตลาด, การตลาด, บริการทําการ ตลาด, บริษัท โฆษณา ออนไลน์, วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, บริษัท การ ตลาด ออนไลน์, การ วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, จ้าง ทีม การ ตลาด, จ้าง ทำการ ตลาด , รับทำ SEO, จ้างทำ SEO, รับทำเว็บไซต์
สิ่งสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ที่คนมักจะมองข้าม การทำการตลาดออนไลน์ไม่ใช่เป็นเพียงแพลตฟอร์มบนโซเชียลมีเดียเพียงเท่านั้น แต่เป็นการตลาดรูปแบบหนึ่งที่เป็นการรับรู้ และสื่อสารบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั้งหมด เพราะในปัจจุบัน เชื่อได้ว่าคงไม่มีใครที่ไม่เคยใช้อินเทอร์เน็ต การทำการตลาดออนไลน์จึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการหน้าใหม่ควรจะทราบถึงข้อมูลเบื้องต้นของการทำการตลาด ถึงแม้ว่าคุณจะเปิดหน้าร้านแบบออฟไลน์ (Offline) แต่คุณก็ยังต้องการการโปรโมทผ่านออนไลน์ (Online) อยู่ดี และนี่คือประเด็นสำคัญที่เราจะมาพูดถึง สิ่งสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ที่คนมักจะมองข้าม เพื่อเป็นหลักการเริ่มต้นของการเข้ามาเรียนรู้การตลาดรูปแบบนี้ 1.กำหนดตัวตนของแบรนด์ (Brand) ขั้นตอนแรกของการเริ่มต้นทำธุรกิจเราควรกำหนดตัวตนของแบรนด์เสียก่อน ถือเป็นขั้นตอนแรกเริ่มที่นับว่าสำคัญที่สุด เพราะเราจำเป็นต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ในการทำการตลาด ต้องรู้ว่าจะทำอะไร ขายอะไร และขายให้ใคร จุดไหนที่เป็นจุดเด่นของเราก็หยิบยกจุดนั้นขึ้นมาสร้างเป็นจุดขาย และให้แบรนด์เป็นที่จดจำ หรือให้เป็น Top Of Mind ของลูกค้า และไม่ควรมีหลายเป้าหมาย เพราะอาจจะทำให้เราหลุดโฟกัส จนทำให้ไม่สามารถทำตามเป้าหมายได้อย่างที่หวังไว้ 2.กำหนดลักษณะ และประเภทของลูกค้า เราควรทราบว่าลูกค้าของเราเป็นใคร , มีเป้าหมาย ปัญหา หรือความสนใจในด้านใด , พฤติกรรม และช่องทางการรับสารเป็นอย่างไร เพื่อที่คุณจะได้สร้างสินค้าหรือการบริการที่ตรงใจกับลูกค้า ทำให้คุณสามารถออกแบบการวางแผนทางการตลาดว่าควรมุ่งเน้นไปคนกลุ่มใด ใช้ช่องทางไหน คอนเทนต์แบบใดจึงจะเหมาะสมกับลูกค้า 3. รู้เขารู้เรา หลาย ๆ คนอาจจะมองข้ามจุดนี้ไป เพราะอาจจะคิดว่าเพียงแค่เราผลิตสินค้าที่มีคุณภาพก็เพียงพอแล้ว แต่การรู้จักคู่แข่งก็เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่หากคุณรู้ว่าคนที่ทำธุรกิจ หรือขายสินค้าเหมือนกับเราเขามีวิธีการขาย การโฆษณาอย่างไรก็เป็นผลดีกับเรา เพราะคุณจะสามารถนำคู่แข่งมาเปรียบเทียบกับตัวเองและทราบถึงจุดแข็ง และจุดอ่อนของธุรกิจ และหาจุดแตกต่างระหว่างเรา และเขาได้ 4. กำหนดเป้าหมาย และวางแผนกลยุทธ์การตลาด การกำหนดเป้าหมาย (Marketing Goal) คือการกำหนดเป้าหมายของธุรกิจ เช่น การเป็นที่รู้จักมากขึ้น (Brand Awareness) หรือการเกิดการซื้อซ้ำ (Brand loyalty) ข้อดีของการวางแผนกลยุทธ์คือทำให้เรารู้จักลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และรู้วิธีรับมือกับคู่แข่ง เมื่อเรารู้จักลูกค้าเรามากขึ้นก็จะสามารถสร้างคอนเทนต์ดึงดูดลูกค้าได้ เช่น การจ้าง Influencer ที่มีชื่อเสียงหรือคนที่มีภาพลักษณ์เหมาะสมกับแบรนด์ของคุณ, มีการสะสมแต้ม เพื่อชวนให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าซ้ำ หรือมีคูปองส่วนลด โปรโมชั่นในแต่ละเดือน 5.เลือกช่องทางการตลาดที่เหมาะกับแบรนด์ เป็นวิธีของการเลือกสื่อโซเชียล และช่องทางที่เราต้องการสื่อสารกับลูกค้าเพื่อให้ตรงจุด และได้ประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งช่องทางการตลาดในปัจจุบันมีให้เลือกมากมายตามความต้องการ เช่น Facebook, YouTube, Instagram, Line, TikTok, Twitter สรุป จะเห็นได้ว่าการทำการตลาดออนไลน์เป็นอีกหนึ่งในรูปแบบการตลาดที่มีความน่าสนใจในปัจจุบัน เรียกได้ว่า หากธุรกิจใดไม่มีการทำการตลาดออนไลน์ในทางใดทางหนึ่งก็อาจจะตกเทรนด์ได้ เพราะยุคปัจจุบันเป็นยุคสังคมออนไลน์เกือบทั้งหมด ดังนั้น ‘สิ่งสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ที่คนมักจะมองข้าม’ ที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้นเป็นเพียงการเริ่มต้นทำความรู้จักเพียงเท่านั้น ยังมีอีกหลายวิธีที่รอให้คุณได้ค้นหา และค้นพบหนทางที่จะสามารถสร้างธุรกิจของคุณให้เป็นแบรนด์ติดตลาดได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ อ้างอิง https://blog.readyplanet.com/17794070/5-important-to-plan-for-digital-marketing keyword การตลาด บริษัทรับทำการตลาด, การตลาดออนไลน์, ปรึกษาการตลาดออนไลน์, ทำการตลาด, บริษัท ทำการ ตลาด, วางแผน การ ตลาด, การ ตลาด 5.0, การ ทำการ ตลาด, การตลาด, บริการทําการ ตลาด, บริษัท โฆษณา ออนไลน์, วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, บริษัท การ ตลาด ออนไลน์, การ วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, จ้าง ทีม การ ตลาด, จ้าง ทำการ ตลาด , รับทำ SEO, จ้างทำ SEO, รับทำเว็บไซต์
หน้าที่ของการตลาดมีอะไรบ้าง งานการตลาดเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาแคมเปญ เพื่อโปรโมทสินค้า และบริการให้เป็นที่รู้จัก เป็นที่ทราบกันดีว่า งานการตลาดนั้น มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นคนที่ทำงานด้านนี้ ต้องมีไหวพริบ และติดตามสถานการณ์อยู่เสมอ จึงจะสามารถก้าวนำคู่แข่งไปได้ งานด้านการตลาดแบ่งออกเป็นหลายบทบาท และหน้าที่ โดยเริ่มต้นตั้งแต่ วางแผนการตลาด การโฆษณา การโปรโมท การวางแผนจัดแสดงงาน การพัฒนาสินค้า ไปจนถึงการทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แผนกการตลาด ของแต่ละบริษัท จะมีขนาดเล็ก หรือใหญ่ ขึ้นอยู่กับความต้องการพัฒนาตัวสินค้าของแต่ละบริษัทว่ามีมากน้อยเพียงใด คุณสมบัติของผู้ที่ทำงานการตลาด งานการตลาดส่วนใหญ่ มักจะอยู่ในรูปแบบของการส่งเสริมการขาย นักการตลาด ต้องรู้ว่าปัจจัยอะไรบ้างที่ผู้บริโภคใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ เพื่อช่วยประกอบการวางแผนกลยุทธ์การตลาดให้ดี และรัดกุมยิ่งขึ้น การที่จะเป็นนักการตลาดมืออาชีพได้นั้น ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ 1. เป็นคนกล้าแสดงออก กล้าแสดงความคิดเห็น เพราะนักการตลาดต้องเป็นผู้ที่นำเสนองานให้กับผู้บริหาร หรือลูกค้าให้รับทราบ 2. ผู้ทำงานด้านการตลาด ต้องรู้จักตัวสินค้า และลูกค้าเป็นอย่างดี ดังนั้น ผู้ทำงานด้านนี้ ต้องเรียนรู้และศึกษาหาข้อมูล เพื่อเรียนรู้ความได้เปรียบเสียเปรียบ 3. วางแผนการตลาดอย่างรอบคอบ รัดกุม โดยคิดวิเคราะห์อย่างรอบด้าน ก่อนตัดสินใจนำสินค้าออกสู่ตลาด ติดตามข่าวสารทางด้านการตลาดอยู่เสมอ 4. เป็นนักคิดวิเคราะห์อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้แผนการตลาดของตนเองประสบผลสำเร็จ เราอาจจะต้องลองวิเคราะห์แผนการตลาดของสินค้าอื่นดูบ้าง หน้าที่ของการตลาดมีอะไรบ้าง งานการตลาดเป็นการเรียนรู้ เพื่อศึกษาสภาพการตลาดโดยรวม อาจจะเริ่มจากการวางแผน ประชาสัมพันธ์สู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จัดนิทรรศการส่งเสริมการแสดงสินค้า วางแผนส่งเสริมสินค้าร่วมกับ ผู้ค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า ตลอดจนจัดเก็บข้อมูลรายชื่อลูกค้า และประสานงานกับฝ่ายวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ก่อนทำรายงานสรุปให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ งานด้านการตลาดอาจจะมีความแตกต่างกันบ้าง แล้วแต่หน่วยงานหรือองค์กร หรืออาจจะแตกต่างกันตามตัวสินค้า แต่งานด้านการตลาดมีลักษณะร่วมกัน ดังนี้ 1. ผู้ทำงานด้านการตลาด ต้องรู้จักเรียนรู้และศึกษาหาข้อมูลของสินค้า หรือคู่แข่ง เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบ 2. วางแผน และเขียนแผนการตลาด เพื่อโปรโมทสินค้า และบริการอย่างรอบคอบ 3. วิเคราะห์ วิจัยกลุ่มเป้าหมาย เพื่อคาดการณ์เกี่ยวกับการผลิตสินค้า งบประมาณ และผลกำไรที่จะได้รับ 4. ปรับแผนการตลาด และเสนอขออนุมัติจากผู้บริหาร 5. วางแผนกิจกรรมการส่งเสริมการขาย และการใช้สื่อประชาสัมพันธ์ เพื่อโปรโมทสินค้า 6. ติดตาม และประเมินผลของแผนการตลาด ก่อนส่งรายงานสรุปให้ผู้บริหารทราบ ถึงผลการวางแผนการตลาดที่นำเสนอมา สรุป นักการตลาดที่ประสบความสำเร็จ บางครั้งต้องมีจินตนาการอยู่บ้าง หรืออาจต้องคิดให้ลึก และรอบด้านมากขึ้น มองข้ามความเป็นไปไม่ได้ดูบ้าง เพราะบางครั้ง การลองคิดนอกกรอบของการตลาดเดิม ๆ ก็อาจจะทำให้เราสามารถชักชวนคู่แข่งขัน ให้มาเป็นลูกค้าของเราได้อย่างไม่รู้ตัว อ้างอิง https://th.jobsdb.com/th-th/articles/%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99-marketing-%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3/ keyword การตลาด บริษัทรับทำการตลาด, การตลาดออนไลน์, ปรึกษาการตลาดออนไลน์, ทำการตลาด, บริษัท ทำการ ตลาด, วางแผน การ ตลาด, การ ตลาด 5.0, การ ทำการ ตลาด, การตลาด, บริการทําการ ตลาด, บริษัท โฆษณา ออนไลน์, วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, บริษัท การ ตลาด ออนไลน์, การ วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, จ้าง ทีม การ ตลาด, จ้าง ทำการ ตลาด , รับทำ SEO, จ้างทำ SEO, รับทำเว็บไซต์
วางแผนการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ แบบ step by step มีสินค้าดีแต่การตลาดไม่ดีมันก็จบ สินค้าไม่เวิร์คแม้การตลาดดีแค่ไหนช่วงแรกอาจจะพอไปได้ แต่สุดท้ายธุรกิจนี้จะมาตายเพราะสินค้า ทั้งสินค้าและการตลาดต้องสอดประสานกันอย่างลงตัว จึงจะทำให้ธุรกิจเดินไปข้างหน้าได้ ส่วนจะไปได้ไกลแค่ไหน เร็วแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้เป็นเบื้องต้นครับ 7 ขั้นตอน สู่แผนการตลาดขั้นเทพ Step ที่ 1 : กำหนดกลุ่มเป้าหมายลูกค้า ต้องบอกว่านี่เป็นเรื่องสำคัญที่สุดในเรื่องของการตลาดครับ เราต้องกำหนดกลุ่มลูกค้าชัดเจน ความผิดพลาดที่สำคัญคือ เรามักจะสร้างสินค้าก่อนที่จะสร้างลูกค้าขึ้นมา ทำให้สินค้าที่ผลิดออกมาแล้วไม่มีลูกค้า สุดท้ายก็เจ๊ง Step ที่ 2 : วางตำแหน่งสินค้าหรือบริการ ต้องรู้นะครับว่าเวทีสินค้า บริการของเราอยู่ตรงไหน และเราจะเป็นที่ 1 ในเวทีนั้นได้อย่างไร ลูกค้าจะจดจำว่าเราเป็นใคร อย่างไร ก็อยู่ที่ขั้นตอนนี้หละครับ ถ้าสินค้าเราเป็น สเปร์ยฉีด เท้าเหม็น เราก็ต้องโฟกัสที่ “เท้า” ไม่ใช่นำเสนอที่ “หน้า” นะครับ ผิดจุด ผิดที่ ผิดตำแหน่งทางการตลาด Step ที่ 3 : พัฒนาเรื่องสื่อในการสื่อสารทางการตลาด ต้องถามตัวเราเองว่าก่อนตัดสินใจซื้อหรือใช้บริการเราตัดสินด้วยอะไรบ้าง ใจเขาใจเราครับ เราต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกค้าได้รู้จักสินค้าเรา เครื่องมือที่เราจะต้องสร้าง พัฒนา หรือ เข้าร่วมกิจกรรมเช่น สร้างเว็บไซต์ หน้าแฟนเพจ Facebook , Line@ ,สร้างคลิป upload ถามว่าแค่นี้พอไหม อาจจะได้แต่ยังไม่พอครับ อย่าลืมว่ามีงานที่เป็นออฟไลน์เช่น ออกอีเว้นท์ ,ทดลองขายตลาดนัด ฯ นี่ก็เป็นอีก 1 ช่องทางเพื่อสร้างการรับรู้นะครับ Step ที่ 4 : กำหนดเป้าหมายยอดขาย มีตัวชี้วัดความสำเร็จที่ประเมินผลได้ ยอดขายต้องได้เท่าไหร่ ว่าสำคัญแล้วนะครับ แต่….ทำอย่างไรให้ได้ยอดขายตามนั้นสำคัญยิ่งกว่าเยอะครับ ต้องมีการวางแผน ว่าต้องลงมือทำอะไรบ้าง 1,2,3,4…….และแต่ละขั้นตอนเหล่านั้นจะวัดผลประเมินความสำเร็จได้อย่างไร เช่น มีการกำหนดว่าในแต่ละวันต้องมีการโทรหาลูกค้าให้ได้อย่างน้อย 15 คน นี่เป็นการกำหนดการกระทำ และปิดการขายให้ได้อย่างน้อย 3 คน ถ้าโทรได้ 15 คนถือว่างานได้ “ประสิทธิภาพ” และหากปิดการขายได้ 3 คนก็ถือว่างานนี้มี “ประสิทธิผล”กำหนดเป้าหมายให้มี “ประสิทธิภาพ” และลงมือทำให้เกิด “ประสิทธิผล” วัดได้นะครับ Step ที่ 5 : เข้าถึงตัวกลางสื่อทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ตัวอย่างตัวกลางสื่อออนไลน์เช่น pantip.com หรือ webboard เกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าบริการของเรานะครับ ส่วนออฟไลน์ อย่างเช่น นิตยสาร หนังสือพิมพ์ ฯ สร้างจุดสนใจให้สื่อนี้วิ่งมาหาเรา หรือ หากเขายังไม่รู้จักเราก็หาเรื่องทำให้เขารู้จัก วิ่งเข้าไปหาเขาเสียเลยก็ทำได้นะครับ สื่อกลางเหล่านี้จะทำให้สินค้า บริการ ของเราเป็นที่รู้จักของลูกค้าได้เร็วยิ่งขึ้น หากโดนก็ดังเป็นพรุแตก แผนการตลาด Step ที่ 6 : สร้างชุมชน Community ให้กับลูกค้า สำหรับผมแล้ว “ลูกค้า” คือ “พนักงานขาย” ที่ดีที่สุดของการทำธุรกิจ การที่ลูกค้าบอกต่อ ปากต่อปาก มันเป็นการขายที่ไม่ได้มีผลประโยชน์แอบแฝงใด ๆ ครับ ไม่มีเรื่องของค่าคอมฯ หรือยอดขาย ทุกอย่างเกิดจากความ “พอใจ” ที่จะบอกให้เพื่อน ให้ญาติ ได้มีโอกาสใช้สิ่งดี ๆ เหมือนที่เขาได้ใช้ ถามว่าแล้วจะสร้างสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร คำตอบเบื้องต้น ตามที่ผมแนะนำขั้นตอนที่ 3 ครับ เราต้องมี “เครื่องมือ” ที่จะใช้ในการสื่อสารทางการตลาดครับ ใช้พื้นที่เหล่านั้นเป็นพื้นที่ระหว่าง “ลูกค้า” กับ “เจ้าของธุรกิจ” อย่าเป็นเพียงการสื่อสารทางเดียว Step ที่ 7 : อย่ามีแต่แผนแต่ไม่ลงมือทำ (สรุป) แผนที่ดีที่สุดคือการ “ลงมือทำ” แผนดี เขียนดี แต่ไม่นำไปใช้ มันก็แค่เศษกระดาษหนึ่งใบทิ้งลงไปในถังขยะ หรือ เผาทิ้งไปแล้วก็ยังไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยครับ ลงมือทำครับ จะผิดบ้างถูกบ้าง…. เพราะเราอาจจะวางแผนทุกอย่างมาดีเยี่ยมแต่ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้กับทุกสิ่งครับ ยิ่งเป็นเรื่องธุรกิจด้วยแล้ว มีให้เห็นตลอดเส้นทาง แต่ที่สำคัญคือ ปัญหาใหญ่ ๆ เราได้มีการวางแผนป้องกันไว้มากน้อยขนาดไหนเท่านั้นเองครับ เขาว่ากันว่า “นักรบ” ที่เก่งที่สุดไม่ใช่คนที่ขึ้นเวทีแล้วจะชนะ แต่อยู่ที่การฝึกซ้อมอย่างหนักครับ เมื่อขึ้นเวทีเจอคู่แข่งอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ 50/50 ใครซ้อมมาดีกว่า ใครเจอปัญหามามากกว่า ใครเจนจัดเวทีมากกว่าคนนั้นมีโอกาสชนะ อ้างอิงhttps://taokaemai.com/7-step-marketing-plan/ keyword การตลาด บริษัทรับทำการตลาด, การตลาดออนไลน์, ปรึกษาการตลาดออนไลน์, ทำการตลาด, บริษัท ทำการ ตลาด, วางแผน การ ตลาด, การ ตลาด 5.0, การ ทำการ ตลาด, การตลาด, บริการทําการ ตลาด, บริษัท โฆษณา ออนไลน์, วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, บริษัท การ ตลาด ออนไลน์, การ วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, จ้าง ทีม การ ตลาด, จ้าง ทำการ ตลาด , รับทำ SEO, จ้างทำ SEO, รับทำเว็บไซต์
5 องค์ประกอบสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ ในปัจจุบันที่การทำการตลาดออนไลน์ในยุค 5G กำลังมาแรงทำให้กลายเป็นเรื่องสำคัญสำหรับธุรกิจทุกประเภทที่มักจะนิยมทำการตลาดออนไลน์ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งทำ Social Media การจัดแคมเปญโปรโมชั่นลงขายสินค้าผ่านเว็บไซต์หรือ Application ต่าง ๆ จนไปถึงการซื้อโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ แต่บางครั้งการทำธุรกิจก็ไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง เพราะบางทีอาจจะประสบปัญหาไม่ได้ผลตอบรับตามที่เราคาดหวัง วันนี้เราจะลองมาดูกันว่า 5 องค์ประกอบที่สำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ เพื่อเริ่มต้นสู่การตลาดออนไลน์มีอะไรบ้าง และแต่ละขั้นตอนมีวิธีการยังไงที่จะสามารถทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตไปในโลกของยุคออนไลน์ 1.สินค้าต้องมีคุณภาพ การที่เราจะเริ่มทำธุรกิจนั้นสิ่งที่เราต้องใส่ใจมากที่สุดคือสินค้า สินค้าต้องมีคุณภาพ เพราะหากเรานำสินค้าที่ไม่มีคุณภาพมาวางขาย ไม่ว่าคุณจะมีวิธีทำการตลาดแบบใดก็ไม่สามารถทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักได้ หากลูกค้าได้รับสินค้าที่ไม่มีคุณภาพก็สามารถนำไปพูดต่อได้ว่าแบรนด์ของคุณไม่มีคุณภาพ ทำให้เกิดการพูดถึงสินค้าในทางเสียหาย ซึ่งจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ และทำให้ธุรกิจของคุณดูแย่ลงในโลกโซเชียล ยกเว้นเสียแต่ว่าสินค้าที่ลูกค้าได้รับนั้นเกิดจากความผิดพลาดทางเทคนิค เจ้าของธุรกิจต้องรับผิดชอบโดยการสร้างบริการหลังการขาย เพื่อเสนอทางเลือกใหม่หรือทำการเปลี่ยนสินค้าให้ใหม่นั่นเอง 2.คอนเทนต์ที่ดี การสื่อสารถือเป็นสิ่งสำคัญมากในการทำการตลาดออนไลน์ในยุค 5G คุณต้องสื่อสารออกมายังไงก็ได้ให้ผู้รับสารเข้าใจความหมายตรงกับสิ่งที่คุณต้องการจะสื่อ ควรอธิบายรายละเอียดอย่างตรงไปตรงมา และไม่เกิดข้อสงสัยขึ้นหลังจากที่ได้รับสารนั้นแล้ว การทำ Content ที่ดีก็เปรียบเสมือนการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เพราะหากธุรกิจของคุณขาดการสื่อสารที่มีคุณภาพก็อาจจะส่งผลเสียต่อธุรกิจได้เช่นกัน 3.ฐานข้อมูลลูกค้า ในการทำธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจออฟไลน์ หรือออนไลน์ การมีฐานข้อมูลของลูกค้านั้นถือเป็นการได้เปรียบในแง่ของธุรกิจ เพราะสิ่งนี้สามารถช่วยให้คุณเอาชนะคู่แข่งได้ เช่น ข้อมูลพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าในแต่ละบุคคล ความชอบ หรือไม่ชอบ และช่วงเวลาในการซื้อสินค้า การนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์จะทำให้คุณสามารถคาดการณ์หรือล่วงรู้สิ่งที่ลูกค้าต้องการได้ และสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้มากที่สุด วิธีนี้จะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถปรับเปลี่ยนหรือวางแผนกลยุทธ์ด้านการตลาดเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าได้นั่นเอง 4.แผนสำรอง การทำธุรกิจที่ดีควรมีแผนสำรองเตรียมไว้เสมอ หรือไม่ใช่แค่กับการทำธุรกิจเราก็ควรมีแผนสำรองไว้ เพื่อรับมือกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ในความเป็นจริงเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น บางทีมันอาจจะไม่ได้อยู่ในแผนที่เราคิดไว้ เพราะอนาคตคือสิ่งที่ไม่แน่นอน อะไรก็เกิดขึ้นได้ ดังนั้น การมีแผนสำรองเตรียมไว้จึงเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง ยกตัวอย่างเช่น ในการทำธุรกิจไม่ควรมีช่องทางการติดต่อแค่ช่องทางเดียว ควรเพิ่มช่องทางการติดต่อให้หลากหลายมากขึ้น เช่น Facebook, Twitter, Instagram, Youtube และในปัจจุบันแอปพลิเคชันที่นิยมใช้กันคือ TikTok เพราะหากคุณมีแค่ช่องทางเดียวในการติดต่อ หากเกิดระบบล่มหรือมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ลูกค้าก็จะไม่สามารถติดต่อคุณได้นั่นเอง 5.เป้าหมายที่ชัดเจน ในการทำธุรกิจออนไลน์จำเป็นต้องมีการวางเป้าหมายให้ชัดเจน โดยเป้าหมายของการทำธุรกิจออนไลน์ก็คือ ต้องการเข้าถึงลูกค้าในระดับ Advocate หรือการใช้สินค้าแล้วเกิดการบอกต่อ ทำให้เกิดการโปรโมทสินค้า เช่น ใช้แล้วเห็นผลลัพธ์ที่ดีจนลูกค้าบอกต่อคนสนิท ญาติ หรือกลุ่มเพื่อน เพื่อช่วยโปรโมทสินค้าให้ สรุป และทั้งหมดนี้ก็คือ 5 องค์ประกอบสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจที่ต้องการจะเข้าสู่โลกออนไลน์จำเป็นต้องคำนึงถึงเป็นอย่างมาก คุณสามารถสำรวจธุรกิจของคุณได้ว่าได้ทำตามทั้ง 5 ข้อนี้ดีแล้วหรือยัง ถ้ายัง เริ่มตอนนี้ยังไม่สาย คุณสามารถค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ขึ้นมาใหม่ได้เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้ไกลกว่าที่คิด อ้างอิง https://www.mandalasystem.com/blog/th/51/online-marketing-24082020 keyword การตลาด บริษัทรับทำการตลาด, การตลาดออนไลน์, ปรึกษาการตลาดออนไลน์, ทำการตลาด, บริษัท ทำการ ตลาด, วางแผน การ ตลาด, การ ตลาด 5.0, การ ทำการ ตลาด, การตลาด, บริการทําการ ตลาด, บริษัท โฆษณา ออนไลน์, วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, บริษัท การ ตลาด ออนไลน์, การ วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, จ้าง ทีม การ ตลาด, จ้าง ทำการ ตลาด , รับทำ SEO, จ้างทำ SEO, รับทำเว็บไซต์
กลยุทธ์การตลาด มีอะไรบ้าง กลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategy) หมายถึง แบบแผนพื้นฐานหรือแนวทางที่ถูกกำหนดขึ้นสำหรับสร้างผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและตลาดเป้าหมาย องค์ประกอบของกลยุทธ์ทางการตลาด 1. ขอบเขต กลยุทธ์การทางการตลาดจะต้องมีขอบเขตของการดำเนินงานที่ครอบคลุม รวมทั้งจะต้องมีการกำหนดสัดส่วนสำหรับการปฏิบัติงานที่มีส่วนข้องเกี่ยวกับการใช้กลยุทธ์อย่างชัดเจน 2. เป้าหมายและวัตถุประสงค์ กลยุทธ์ทางการตลาดจะต้องมีการกำหนดเป้าหมาย วัตถุประสงค์ รวมทั้งกำหนดระดับความสำเร็จของการดำเนินงานให้ชัดเจน ตัวอย่างเช่น การตั้งเป้าหมายกำไรที่เพิ่มขึ้น เป้าหมายผลตอบแทนจากการลงทุน หรือเป้าหมายการเติบโตของยอดขาย เป็นต้น 3. การจัดสรรทรัพยากร กลยุทธ์ทางการตลาดจะต้องมีการจัดสรรทรัพยากรต่างๆ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรทางการเงิน ทรัพยากรสำหรับการลงทุน รวมทั้งทรัพยากรบุคคล 4. การได้เปรียบทางการแข่งขัน กลยุทธ์ทางการตลาดจะต้องมีการระบุการได้เปรียบทางการแข่งขัน เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการ ให้สามารถวางแผนการดำเนินงานในขั้นต่อๆ ไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ 5. พลังเสริมแรง กลยุทธ์ทางการตลาดจะต้องสามารถส่งเสริม และสนับสนุนหน่วยธุรกิจของบริษัท ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทั้งทางด้านการตลาด การจัดสรรทรัพยากร และด้านขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัท กลยุทธ์การตลาด 8P กลยุทธ์การตลาด 8P คือ กลยุทธ์ที่ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพ สำหรับการดำเนินงานทางการตลาดจากนักธุรกิจทั่วโลก 1.Product กลยุทธ์ทางการตลาดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ เป็นกลยุทธ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องทำการพิจารณาออกแบบตัวผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 2. Price กลยุทธ์ทางด้านราคา โดยการกำหนดราคาของสินค้านอกจากผู้ประกอบการ จะต้องคำนึงถึงปัจจัยต้นของทุนการผลิตแล้ว ยังต้องคำนึงถึงสภาพการแข่งขันของสินค้าชนิดนั้นๆ ในตลาด 3.Place กลยุทธ์ช่องทางการจัดจำหน่าย เป็นกลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการควรพิจารณาวางแผนให้ดี เนื่องจากช่องทางกระจายสินค้าที่เลือกใช้ สามารถส่งผลต่อกำไรโดยรวมที่ผู้ประกอบการจะได้รับ โดยช่องทางการจัดจำหน่ายทางการตลาดในปัจจุบันมีอยู่สองรูปแบบ ได้แก่ การขายผ่านพ่อค้าคนกลางและการขายสู่ผู้บริโภคโดยตรง 4. Promotion โปรโมชั่นหรือการส่งเสริมการตลาด เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการขายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการได้อย่างดี โดยกลยุทธ์ดังกล่าวที่ถูกนำมาใช้จะต้องมีความสอดคล้อง รวมทั้งสามารถส่งเสริมกลยุทธ์อื่นๆ ได้ในเวลาเดียวกัน ตัวอย่างเช่น การลดราคาสินค้า การแถมสินค้า หรือการแจกสินค้า เป็นต้น 5. Packaging บรรจุภัณฑ์เปรียบเสมือนเป็นหน้าตาของสินค้า ผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญในการวางกลยุทธ์ทางการตลาดสำหรับบรรจุภัณฑ์ โดยมีเป้าหมายในการสร้างความสวยงามโดดเด่น รวมทั้งความแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ให้แก่ผลิตภัณฑ์ เพื่อที่จะสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคได้มากกว่าสินค้าในตลาดคู่แข่ง จนสามารถสร้างยอดขายและกำไรที่เพิ่มขึ้นได้ 6. Personal พนักงานขาย ซึ่งถือได้ว่าเป็นกลยุทธ์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล ไม่สามารถทำการลอกเลียนแบบได้ง่าย โดยหากผู้ประกอบการมีพนักงานขายที่มีความรู้ มากประสบการณ์ รวมทั้งมีความสามารถในการจูงใจผู้บริโภค จะสามารถช่วยเพิ่มยอดขายให้แก่ธุรกิจได้อีกทางหนึ่งโดยการใช้ประโยชน์จากความสามารถของบุคคล 7. Public Relation กลยุทธ์การใช้ข่าวสารในการชักจูงผู้บริโภค ถือว่าเป็นวิธีการทางการตลาดที่มีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน ที่สื่อต่างๆได้เข้ามามีอิทธิพลในสังคมมากขึ้น โดยกลยุทธ์ดังกล่าวเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มทัศนคติเชิงบวกต่อผลิตภัณฑ์ของผู้บริโภค รวมทั้งสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่สินค้าได้เช่นกัน 8. Power กลยุทธ์ทางการตลาดเกี่ยวข้องกับอำนาจ เป็นกลยุทธ์ที่ใช้สำหรับการต่อรอง ควบคุม รวมทั้งแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ทางการค้ากับคู่แข่งทางการตลาด ซึ่งอำนาจต่อรองที่ผู้ประกอบการมีจะสามารถสร้างข้อเสนอที่ดีที่สุดให้แก่ธุรกิจได้ สรุป กลยุทธ์การตลาด 8P ถือได้ว่าเป็นเครื่องมือทางการตลาดพื้นฐานในการทำธุรกิจ สำหรับผู้ประกอบการทุกประเภท โดยธุรกิจต่าง ๆ ในปัจจุบันที่เกิดขึ้นมามากมายนั้น มีทั้งธุรกิจที่ล้มเหลว และธุรกิจที่สามารถดำเนินไปได้จนประสบความสำเร็จ ซึ่งมีเหตุผลเนื่องมาจากบริษัทที่ล้มเหลวทางธุรกิจไม่สามารถสร้างกลยุทธ์การตลาด 8P ขึ้นมาได้อย่างครบองค์ประกอบ ดังนั้นกลยุทธ์การตลาด 8P จึงควรถูกนำไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างความสำเร็จให้แก่ผู้ประกอบการ อ้างอิง https://www.thaiprint.org/vol127/knowledge127-03/ keyword การตลาด บริษัทรับทำการตลาด, การตลาดออนไลน์, ปรึกษาการตลาดออนไลน์, ทำการตลาด, บริษัท ทำการ ตลาด, วางแผน การ ตลาด, การ ตลาด 5.0, การ ทำการ ตลาด, การตลาด, บริการทําการ ตลาด, บริษัท โฆษณา ออนไลน์, วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, บริษัท การ ตลาด ออนไลน์, การ วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, จ้าง ทีม การ ตลาด, จ้าง ทำการ ตลาด , รับทำ SEO, จ้างทำ SEO, รับทำเว็บไซต์
คิดจะทำธุรกิจออนไลน์ ต้องรู้ Google Ads 5 ประเภทนี้ เราเชื่อว่าในปัจจุบันคนส่วนใหญ่น่าจะรู้จัก Google Ads มาบ้าง แต่อาจจะยังไม่รู้ว่า Google Ads คืออะไร สามารถทำประโยชน์อะไรให้ธุรกิจของคุณได้มากน้อยแค่ไหน วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับรูปแบบโฆษณาต่าง ๆ ของ Google Ads ว่ามีอะไรบ้าง และมีจุดเด่นอย่างไร Google Ads คือ การทำโฆษณาผ่าน Google ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Search Engine ที่มีผู้เข้าใช้งานในหลักล้านคนต่อวัน Google Ads นั้นสามารถใช้งานกับธุรกิจทั่วไปได้ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ โดยใช้เป็นช่องทางในการโปรโมตสินค้า และบริการ ทั้งบน Google Search, YouTube รวมทั้งสามารถกระจายโฆษณาไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ ได้ โดย Google Ads มีรูปแบบการทำโฆษณาให้เลือกหลากหลายประเภท ดังนี้ Search Ads เป็นการโฆษณากับผลการค้นหาของ Google และเป็นวิธีที่นิยมที่สุดในปัจจุบัน เพราะเวลาที่ต้องการหาข้อมูลเราก็มักจะเข้า Google เพื่อค้นหาข้อมูล เช่น หาร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า หรือแม้แต่ตามข่าวสาร ซึ่งถ้าคุณมีการทำ Google Ads แบบ Search Ads โดยการกำหนดคีย์เวิร์ดให้เป็นคำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือสินค้าของคุณ เวลาที่มีคนเสิร์ชคำหรือคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง Google ก็จะแสดงเว็บไซต์ของคุณเป็นอันดับแรก ๆ ที่หน้าการค้นหา ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้น และมีตัวตนในโลกออนไลน์ Display Ads คือการทำโฆษณาบนช่องทางออนไลน์ในรูปแบบของรูปภาพ วิดีโอ ข้อความ หรือแบนเนอร์ เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า ให้กดเข้ามายังหน้าเว็บไซต์ของคุณ เช่น หน้าเพจ Facebook หรือหน้า Sale page ตามที่ธุรกิจต้องการ ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดี YouTube Ads / Video Ads โฆษณา YouTube Ads หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Google Ads Video คืออีกหนึ่งประเภทในการทำโฆษณาบน Google Ads ในการทำ Youtube Ads คุณสามารถเลือกได้ว่าจะให้โฆษณาไปแสดงที่ไหน เช่น วิดิโอที่มีคนดูเยอะ ๆ และคาดว่ากลุ่มลูกค้าของคุณจะมาดูคลิปนี้อย่างแน่นอน หรือยิงไปหา Channel ที่กลุ่มลูกค้าคุณติดตาม เพื่อให้คนพบเจอคุณได้มากที่สุด Shopping Ads Shopping Ads คือ การโฆษณาสินค้าบนหน้า Google โดยจะแสดงภาพสินค้า ราคา และชื่อร้านค้าเพื่อให้คนที่กำลังค้นหาสินค้านั้น ๆ สามารถเข้าถึงสินค้าของคุณได้ได้ง่าย และกดเข้าไปซื้อได้ทันที App Ads Google Ads ประเภทนี้อาจจะไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก เพราะ App Ads จะเหมาะกับธุรกิจที่มีแอพพลิเคชั่นเป็นของตัวเอง แต่ในช่วงปีที่ผ่านมาที่หลาย ๆ ธุรกิจเริ่มนิยมสร้างแอพพลิเคชั่นเป็นของตัวเองมากขึ้น การโฆษณา App Ads จึงเริ่มมีบทบาทมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่นในไอโฟน หรือแอนดรอยด์ โดยวัตถุประสงค์หลักของการโฆษณาแอพก็คือต้องการให้คนทำการติดตั้งแอพพลิเคชั่นของเราเยอะ ๆ สรุป จากที่เรากล่าวข้างต้นเป็นการทำการรู้จักกับ Google Ads เพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันโลกเราเริ่มเข้าสู่โลกออนไลน์มากขึ้น ทำให้การทำการตลาดออนไลน์นับว่าเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมาก ๆ เพราะว่าถ้าวางแผนผิดไปนิดเดียว เว็บไซต์คุณอาจจะไม่ติดอันดับบนหน้าการค้นหาของ Google ก็ได้ และทำให้ธุรกิจของคุณถูกคู่แข่งแย่งลูกค้าไปได้ แต่หากคุณมีการวางกลยุทธ์ในการทำการตลาดออนไลน์ที่ดี และยิงโฆษณาไปยังลูกค้าได้ตรงจุด แน่นอนว่ายอดขายของคุณจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตไปในโลกออนไลน์ได้อย่างสบาย อ้างอิง - https://www.startupnow.in.th/google-ads/ - https://www.makewebeasy.com/th/blog/what-is-google-ads/#Youtube_Ads - https://packhai.com/display-ads-meaning/ - https://www.pdmcoachthai.com/blog/youtube-ad-google-ads-adwords-vdo-faq#:~:text=%E0%B9%82%E0%B8%86%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B8%B2%20YouTube%20Ad.%20%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD,%E0%B9%82%E0%B8%86%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89 keyword การตลาด บริษัทรับทำการตลาด, การตลาดออนไลน์, ปรึกษาการตลาดออนไลน์, ทำการตลาด, บริษัท ทำการ ตลาด, วางแผน การ ตลาด, การ ตลาด 5.0, การ ทำการ ตลาด, การตลาด, บริการทําการ ตลาด, บริษัท โฆษณา ออนไลน์, วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, บริษัท การ ตลาด ออนไลน์, การ วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, จ้าง ทีม การ ตลาด, จ้าง ทำการ ตลาด , รับทำ SEO, จ้างทำ SEO, รับทำเว็บไซต์
เปิดกลยุทธ์ Content Marketing ให้ธุรกิจ B2B สร้างยอดขายได้ในระยะยาว Content Marketing คือ การทำคอนเทนต์เพื่อจุดประสงค์ทางการตลาด ไม่ว่าจะเป็นการส่งมอบคุณค่าหรือความรู้ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย สร้างการจดจำแบรนด์ กระตุ้นการตัดสินใจ ฯลฯ คอนเทนต์ มาจาก 2 คำ ได้แก่ “Content” ที่หมายถึง เนื้อหาหรือสาร (Message) รวมกับคำว่า “Marketing” ที่หมายถึง การตลาด และ Content Marketing มักจะเป็นสิ่งที่ทำเพื่อขับเคลื่อนองค์กร ไม่ว่าจะเป็น ภาพลักษณ์, ความสัมพันธ์กับลูกค้า และกำไร ซึ่งประเภทของคอนเทนต์มีหลากหลายรูปแบบ แต่ละประเภทจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสามารถใช้สื่อสารกับลูกได้แตกต่างกัน ซึ่งประเภทของการทำคอนเทนต์ที่นิยมใช้มากที่สุด มีดังนี้ 1. Infographic Content เป็นการสรุปข้อมูลออกมาเป็นภาพ และเข้าใจง่าย มักจะเป็นคอนเทนต์ที่แสดงสถิติ ความแตกต่าง และกรณีศึกษา ที่มีความหลากหลายของข้อมูล นำมาเรียบเรียงให้อ่านง่าย ซึ่งข้อดีของคอนเทนต์ลักษณะนี้จะง่ายต่อการทำความเข้าใจ 2. Blog Content สำหรับธุรกิจแล้วการทำบล็อก ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีในทุกธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่มีข้อมูลมาก ๆ หรือต้องการความน่าเชื่อถือ และเหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการสื่อสารกับผู้ใช้อย่างสม่ำเสมอ 3. Longform Content คือ การใช้คอนเทนต์ที่เน้นความยาว ผู้รับสารจำเป็นต้องใช้เวลาในการรับสารนาน ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ เช่น บทความ บล็อก วิดีโอ คลิปเสียง Longform Content ไม่ใช่แค่บทความสั้น ๆ 1,000 คำเท่านั้น แต่จะมีมากถึง 5,000 – 15,000 คำ ที่เชื่อมกันไว้ด้วย URL ซึ่งเป็นเนื้อหาต่อเนื่องกัน และมีคุณค่าต่อผู้อ่าน จบครบในเว็บไซต์เดียวโดยไม่ต้องไปค้นหาเพิ่มเติม 4. E-Book หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ สามารถใช้ดึงดูดนักอ่านได้ ถึงแม้จะใช้การลงทุนสูง และใช้เวลานานในการเขียนอีบุ๊ก แต่วิธีนี้เป็นสิ่งที่คุ้มค่าเพราะเป็น Evergreen Content (คือ งานเขียนที่ไม่มีวันเสื่อมค่าตามความนิยม เช่น งานเขียนที่บอกความหมาย บอกวิธีการ บอกผลการศึกษา รวมถึงอะไรก็ตามที่เป็นความจริง) การทำ E-book มีความยาวหน้าได้ตั้งแต่ 5-30 หน้า และเต็มไปด้วยข้อมูลที่เสนอวิธีแก้ปัญหาอย่างแท้จริง และโน้มน้าวให้ผู้คนหลงเชื่อได้ 5. Video Content เป็นวิธีที่สามารถสร้างผู้ชมได้มากกว่าอ่านข้อความ เพราะเป็นการสรุปเนื้อหาต่าง ๆ ไว้ในวีดีโอ เพราะบางคนอาจจะไม่ชอบอ่าน แต่ชอบที่จะดูวีดีโอเพื่อฟังเนื้อหาสรุปมากกว่า แต่การทำคอนเทนต์วีดีโอที่ดีนั้น ควรรวมไปถึงการทำ CTA ในตอนสุดท้ายเพื่อให้เกิดการขยายความอีกด้วย สรุป สิ่งสำคัญในการใช้คอนเทนต์ทำการตลาด คือ ผลลัพธ์ในระยะยาว ว่าคอนเทนต์แบบไหนที่เหมาะสม และสามารถสร้างเอกลักษณ์ให้กับธุรกิจของคุณได้ เพราะการทำคอนเทนต์ถือเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งที่จะสร้างภาพลักษณ์ และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ ดังนั้น ควรจะประเมินถึงความคุ้มค่าในการทำคอนเทนต์ ไม่ว่าจะในเชิงสร้างการรับรู้ สร้างการมีส่วนร่วม และสร้าง conversion ก็ตาม อ้างอิง https://thewisdom.co/content/what-is-content-marketing/ https://contentshifu.com/pillar/content-marketing https://www.tpa.or.th/tpanews/upload/mag_content/100/ContentFile2036.pdf keyword การตลาด บริษัทรับทำการตลาด, การตลาดออนไลน์, ปรึกษาการตลาดออนไลน์, ทำการตลาด, บริษัท ทำการ ตลาด, วางแผน การ ตลาด, การ ตลาด 5.0, การ ทำการ ตลาด, การตลาด, บริการทําการ ตลาด, บริษัท โฆษณา ออนไลน์, วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, บริษัท การ ตลาด ออนไลน์, การ วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, จ้าง ทีม การ ตลาด, จ้าง ทำการ ตลาด , รับทำ SEO, จ้างทำ SEO, รับทำเว็บไซต์
เคล็ดลับทำตลาดออนไลน์อย่างไรให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น สำหรับการทำ Online Marketing หรือที่เราเรียกกันว่าการตลาดออนไลน์ คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวิธีนี้เป็นสิ่งสำคัญในการทำให้แบรนด์ของคุณมีชื่อเสียงมากขึ้น เพราะปัจจุบันคนส่วนมากมักจะใช้เวลาในโลกออนไลน์เสียส่วนใหญ่ ทำให้การทำตลาดออนไลน์เป็นเรื่องสำคัญมากในยุคนี้ เพราะฉะนั้นวันนี้เราจึงนำเคล็ดลับทำตลาดออนไลน์อย่างไรให้ธุรกิจของคุณมีตัวตนมากขึ้นในโลกออนไลน์ 1. รู้จักสินค้าของเราให้ดีเสียก่อน เมื่อเราเริ่มทำธุรกิจ สิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจก่อนเลยคือต้องรู้จักสินค้าที่เรากำลังขาย และรู้จักจุดเด่น และจุดอ่อน เมื่อเรารู้จักรู้จักสินค้าของเราดีแล้ว จะทำให้เราสามารถเลือกจุดเด่นของสินค้ามาเป็นจุดขายของแบรนด์ได้ และสามารถแก้ไขในส่วนของจุดด้อย 2. เลือกเครื่องมือ และช่องทาง Social Network ขั้นตอนสำคัญสำหรับการทำตลาดออนไลน์คือการเลือกเครื่องมือ เครื่องมือการตลาดออนไลน์นั้นมีมากมายหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการทำผ่าน Search Engine ต่าง ๆ ซึ่งมี Search Engine เจ้าใหญ่อย่าง Google, Yahoo, Bing หรือว่าจะเลือกช่องทาง Social Network เช่น Facebook, Instagram, Twitter, Youtube หรือ TikTok ก็มีให้เลือกมากมายหลายช่องทางเช่นเดียวกัน 3. การทำเว็บไซต์ การที่เราจะทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นโดยใช้เพียงช่องทาง Social Network อย่างเดียวอาจจะไม่ใช่หนทางที่ดีในระยะยาว เนื่องจาก Social Network นั้นมีเปลี่ยนแปลงไปตามค่านิยมอยู่ตลอดเวลา ทำให้เราต้องตามทันทุกเทรนด์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ แต่หากเรามีเว็บไซต์เป็นของเราเอง เราจะสามารถปรับแต่ง หรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบเว็บไซต์ในแบบของเราได้ด้วยตัวเองโดยใช้เอกลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นตัวเอง เช่น โลโก้ของแบรนด์ หรือรูปแบบการทำเว็บไซต์ที่ต่างจากเว็บอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาชมสามารถจดจำเราได้ 4. วางแผนสื่อ และ content สิ่งที่สำคัญอย่างนึงเมื่อเราได้กลยุทธ์แบรนด์แล้วคือการวางแผนสื่อ และการออกแบบสื่อ ไม่ว่าเนื้อหา ข้อความ รูปภาพ ที่ใช้ต้องสอดคล้องกับแบรนด์ หรือเพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้เข้ามาพบเห็น ในแต่ละเดือนจำเป็นต้องมีแพลนสำหรับสื่อ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา และข้อมูลสำหรับสินค้า เพื่อให้สินค้าที่ออกมายังคงความเป็นตัวเราเอง หรือยังหลงเหลือความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ 5. เลือกกลุ่มเป้าหมาย เมื่อเรารู้จักสินค้า และธุรกิจของเราดีแล้ว สิ่งต่อไปคือการเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมกับสินค้า เพราะสินค้าของเราอาจจะสามารถตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลายกลุ่มมากกว่าที่เราคิด ซึ่งจะทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นอีกด้วย 6. การเลือก Keyword ที่สำคัญ คีย์เวิร์ดเป็นเรื่องจำเป็นมาก เนื่องจากจะต้องทำ Search Engine Optimization หรือที่เรียกว่า SEO และเพื่อให้ Content ของคุณนั้นติดขึ้นอันดับใน Search Engine และ Social Network ต่าง ๆ การเลือกคีย์เวิร์ดนั้นจึงสำคัญมากที่ควรจะศึกษา และวางแผนให้ดีก่อนเริ่มต้นทำตลาดออนไลน์ เพื่อที่แบรนด์หรือสินค้าของคุณอาจจะไปติดอันดับบน Google หน้าแรกก็ได้ สรุป จากวิธีที่เราแนะนำคุณนั้นจะเห็นได้ว่าการทำการตลาดออนไลน์มีหลากหลายวิธีที่สามารถทำให้ได้ผลลัพธ์ ที่ตั้งเป้าไว้ลุล่วงไปด้วยดี หากเราทำวิธีที่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มก็จะได้ประหยัดเวลามากกว่าการทำแล้วกลับมาแก้ไข แต่หากบางขั้นตอนไม่จำเป็นก็สามารถข้ามไปได้ และเริ่มในขั้นตอนถัดไปได้ทันที อ้างอิง https://www.smartstartupacademy.com/online_marketing/12-%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A5/ keyword การตลาด บริษัทรับทำการตลาด, การตลาดออนไลน์, ปรึกษาการตลาดออนไลน์, ทำการตลาด, บริษัท ทำการ ตลาด, วางแผน การ ตลาด, การ ตลาด 5.0, การ ทำการ ตลาด, การตลาด, บริการทําการ ตลาด, บริษัท โฆษณา ออนไลน์, วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, บริษัท การ ตลาด ออนไลน์, การ วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, จ้าง ทีม การ ตลาด, จ้าง ทำการ ตลาด , รับทำ SEO, จ้างทำ SEO, รับทำเว็บไซต์
ไขความลับ การทำ Google SEM ที่ดีและมีประสิทธิภาพ รู้จักรูปแบบของการทำ SEM อีกหนึ่งวิธีทำให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกใน Google SEM (Search Engine Marketing) ถ้าแปลความหมายจริงๆ มันก็คือการทำการตลาดผ่าน Search Engine เช่น Google โดยลักษณะก็คือการทำให้เว็บไซต์ของเราขึ้นไปติดอยู่ในหน้าแรกของการค้นหาของ Keyword นั้นๆ ที่คุณตั้งเอาไว้ให้รู้ว่าที่ลูกค้าสามารถค้นหาเว็บไซต์ของคุณเจอได้ง่ายขึ้นและยังสร้างโอกาสการเปลี่ยนว่าที่ลูกค้าให้กลายเป็น “ลูกค้า” ในอนาคตได้ หากพวกเขากดเข้ามายังเว็บไซต์ของคุณและเริ่มสร้าง Conversion ในนั้น โดยเวลาที่เราเสิร์จข้อมูลใน Google เราจะพบเจอกับหน้าแสดงผล 2 รูปแบบได้แก่ 1. Organic Search (แบบไม่เสียเงิน) 2. Paid Search (แบบเสียเงินซื้อ) การทำ SEM (Search Engine Marketing) แบบ Paid Search เหมาะกับธุรกิจที่กำลังมองหาสิ่งใดอยู่ ? การทำ SEM แบบ Paid Search ถึงแม้คุณอาจจะต้องยอมเสียค่าใช้จ่ายสำหรับการโฆษณา (ที่คาดเดาไม่ได้ว่าเท่าไหร่) แต่ประโยชน์ที่คุณจะได้รับกลับมาก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเลยครับ โดยเฉพาะธุรกิจที่กำลังต้องการสิ่งต่างๆ เหล่านี้ การทำ SEM แบบ Paid Search อาจจะเป็นคำตอบที่คุณมองหาอยู่ครับ - ต้องการให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักคุณมากขึ้น ปฏิเสธไม่ได้หรอกครับว่าการที่คุณต้องการให้เว็บไซต์ของคุณไปอยู่ในตำแหน่งที่ถูกค้นหาได้ง่ายขึ้น วัตถุประสงค์อย่างแรกก็คือต้องการสร้างการรับรู้แบรนด์ (Awareness) หรือก็คือให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ว่า คุณคือใคร คุณทำอะไร นั่นเอง - ต้องการโปรโมทสินค้า/บริการ หรือโปรโมชั่นใหม่ๆ ในกรณีที่ธุรกิจของคุณเกิดมีสินค้า/บริการ หรือโปรโมชั่นใหม่ๆ ที่คุณต้องการโปรโมทนอกเหนือจากช่องทาง Social Media Ads แล้ว การใช้ SEM แบบ Paid ก็สามารถช่วยคุณได้ครับ - ต้องการเป็น Top of Mind ของธุรกิจนั้นๆ ด้วยตำแหน่งที่ดึงดูดบนหน้า SERP ซึ่งต้องยอมรับว่ามีโอกาสที่จะสร้าง Brand Awareness ให้กับธุรกิจคุณได้ไม่น้อย เพราะถ้าคุณมีการ Biding จนได้ขึ้นเป็นอันดับ 1 เว็บไซต์ของคุณก็จะเป็นเว็บไซต์แรกที่กลุ่มเป้าหมายเจอเมื่อเกิดการค้นหา - ต้องการยอดขาย , ว่าที่ลูกค้าจากช่องทางออนไลน์เพิ่ม และสำหรับธุรกิจที่ต้องการยอดขายจากช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น การทำ Paid Search อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีครับ 3 เทคนิคเริ่มต้นทำ SEM (Search Engine Marketing) แบบ Paid Search เพื่อให้ธุรกิจได้ลูกค้าใหม่อย่างมีคุณภาพ เทคนิคที่ 1 : Keyword Research is Matter ขั้นตอนแรกสุดของการทำ SEM แบบ Paid Search ให้มีชัยตั้งแต่เริ่มต้นนั่นก็คือการทำ Keyword Research สำหรับการค้นหา ที่ถือเป็นหัวใจของการทำ SEM ทั้ง 2 แบบ (Organic - Paid)อันดับแรกคุณต้องรู้ก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณกำลังมองหาอะไร เพื่อคุณจะได้นำข้อมูลเหล่านั้นมาตกผลึกเพื่อหา Keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่สุด ที่จะสามารถมาคัดกรองกลุ่มเป้าหมายที่สนใจในสินค้า/บริการของคุณจริงๆ เทคนิคที่ 2 : ใช้งาน Google Ads ให้เป็น ด้วยความที่การทำ Paid Search สำหรับ Google ต้องเริ่มทำแคมเปญผ่าน Google Ads เพราะฉะนั้นหากคุณต้องการเริ่มทำ Paid Search ให้ธุรกิจได้ลูกค้าใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ จงอย่าลืมให้ความสำคัญกับ Google Ads เด็ดขาด ทั้งในการเรียนรู้การจัดโครงสร้างแคมเปญ และการ Monitoring ต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องของ Bidding Strategy หรือกลยุทธ์การประมูลราคาสำหรับ Google Ads ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักสำหรับการทำ Paid Search (หลายองค์กรมีพนักงานตำแหน่งนี้โดยเฉพาะ) เทคนิคที่ 3 : ปรับแต่ง Site Structure และเลือก Keyword ให้เหมาะสม หลังจากที่คุณกำหนด Keyword และทำการ Set Up Google Ads จนพร้อมทำการโฆษณาแล้วสิ่งสุดท้ายที่คุณจะต้องให้ความสำคัญไม่แพ้ขั้นตอนอื่นๆ ก็คือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ถูกจริตของกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด สรุปทั้งหมด ในฐานะที่คุณเป็นนักการตลาดออนไลน์ยุคใหม่ เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะต้องรู้จักการทำงานของโฆษณาออนไลน์ได้ทุกประเภท ซึ่งการทำ SEM แบบ Paid Search ก็ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามการทำ Paid Search ไม่ใช่เพียงแต่เรื่องของการ “ซื้อโฆษณา” เท่านั้นแต่คุณต้องอาศัยความรู้ในการเลือกใช้ Keyword ให้ตรงกับสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายต้องการค้นหา ถึงจะทำให้การทำ Paid Search สำหรับ Google ของคุณประสบความสำเร็จ และให้คุณได้ลูกค้าใหม่ๆ อย่างมีคุณภาพกลับคืนมาสู่ธุรกิจครับ อ้างอิง https://thegrowthmaster.com/blog/sem-paidads keyword การตลาด บริษัทรับทำการตลาด, การตลาดออนไลน์, ปรึกษาการตลาดออนไลน์, ทำการตลาด, บริษัท ทำการ ตลาด, วางแผน การ ตลาด, การ ตลาด 5.0, การ ทำการ ตลาด, การตลาด, บริการทําการ ตลาด, บริษัท โฆษณา ออนไลน์, วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, บริษัท การ ตลาด ออนไลน์, การ วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, จ้าง ทีม การ ตลาด, จ้าง ทำการ ตลาด , รับทำ SEO, จ้างทำ SEO, รับทำเว็บไซต์
การตลาดรูปแบบไหนที่ตอบโจทย์ธุรกิจ B2B ในอดีตเรามีวิธีทำการตลาดแบบดั้งเดิมหลากหลายช่องทาง เช่น การส่งโบรชัวร์หรืออีเมล การให้พนักงานขายโทรเข้าไปนำเสนอสินค้า หรือแม้แต่การเข้าร่วมงานเอ็กซ์โปฯ ต่าง ๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลยุทธ์ในการทำการตลาดแบบดั้งเดิมก็เปลี่ยนเป็นการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) หรือที่เรียกว่าการตลาดออนไลน์ เป็นวิธีการส่งเสริมสินค้าหรือบริการของคุณผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น Google เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย อีเมล และแอพพลิเคชั่นบนมือถือ ทำให้ปัจจุบันธุรกิจ B2B ต้องพึ่งพาการตลาดดิจิทัลแทนการโปรโมทแบบเดิม โดยมีวิธีการทำการตลาดมากมาย แต่วันนี้เราจะเลือกวิธีที่ตอบโจทย์สำหรับธุรกิจ B2B มากที่สุดมาแนะนำคุณโดยเฉพาะ 1.การทำ SEO (Search Engine Optimisation) คือการทำเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพ และรองรับการติดอันดับบน Google นั่นคือการเขียนเนื้อหาที่มีคุณภาพ และใส่คีย์เวิร์ดลงไปในหน้าหลักของเว็บไซต์ ซึ่งประกอบไปด้วยการเขียนเนื้อหาที่มีคุณภาพ และใส่คีย์เวิร์ดลงไปในหน้าหลักของเว็บไซต์ รวมถึงการสร้าง Backlink กลับมายังหน้าที่ต้องการ วิธีนี้จะทำให้เว็บไซต์ของคุณมีคนเข้ามาชมมากขึ้น และทำให้ยอดขายของธุรกิจคุณเพิ่มมากขึ้น 2.สร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน เช่น การทำ Content Marketing หรือการเขียนบล็อก เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มสนใจในเนื้อหาเฉพาะทางที่เราเขียน ซึ่งวิธีการนี้ไม่ใช่แค่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ความเป็นผู้เชี่ยวชาญของเราเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยในเรื่องของการ Cross-sell ให้ลูกค้าสนใจสินค้า หรือธุรกิจของคุณอีกด้วย 3.ทำ Local SEO โดยใช้ Google My Business เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณติดอันดับบน Google ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากหากต้องการจับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง เช่น หากคุณทำธุรกิจร้านอาหารหรือคาเฟ่ เวลาที่ลูกค้าออกมาท่องเที่ยวแล้วอยากจะแวะรับประทานอาหารหรือกาแฟ ก็มักจะค้นหาคำว่า “ร้านอาหาร ใกล้ฉัน” หรือ “คาเฟ่ใกล้ฉัน” แล้วหน้าผลการค้นหาของลูกค้าที่อยู่ใกล้เคียงกับคุณก็จะปรากฏชื่อร้านคุณขึ้นมา 4.E-mail Marketing แม้ว่าการส่งอีเมลจะเป็นช่องทางทำการตลาดแบบดั้งเดิม แต่การส่งอีเมลเป็นการประชาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ ‘ตรง’ ที่สุด แต่สำหรับการทำการตลาดในกลุ่มธุรกิจ B2B ปัจจุบันก็ต้องใช้กลยุทธ์ที่ดีขึ้นกว่าการส่งอีเมลแนะนำธรรมดา ๆ ซึ่งเราสามารถทำได้โดย •ตั้งชื่อเรื่อง และเขียนเนื้อหาบรรทัดแรกให้ผู้อ่านเข้าใจถึงจุดประสงค์ และสามารถสื่อความหมายได้ครบถ้วน และใช้รูปภาพที่สามารถเพียงแค่มองครั้งเดียวก็เข้าใจได้ หรือดึงดูดให้อ่านต่อ เพราะปกติแล้วคนเรามักจะไม่ค่อยเสียเวลาอ่านอีเมลการตลาดเท่าไร •ควรปรับอีเมลให้มีความเฉพาะเจาะจงกับธุรกิจที่ต้องการส่งไปหามากที่สุด เช่น คำขึ้นต้น เนื้อหาด้านในที่มีการพูดถึงปัญหาหรือแนวทางการแก้ไขที่ตรงจุดจริง ๆ จะช่วยให้ลูกค้าแต่ละรายอ่านแล้วรู้สึกได้ถึงความใส่ใจ สรุป ธุรกิจแบบ B2B นั้นคือธุรกิจที่ทำการค้าระหว่างธุรกิจด้วยกัน ซึ่งจะมีปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างสูง โดยธุรกิจแบบ B2B จะมีการใช้ช่องทางการตลาดแบบออฟไลน์เป็นหลัก แต่ในปัจจุบันการตลาดออนไลน์ไม่ได้เป็นเพียงการตลาดทางเลือกสำหรับธุรกิจ B2B เพียงเท่านั้น ดังนั้นหากคุณนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณก็จะสามารถเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างธุรกิจให้มีความน่าเชื่อถือ เข้าถึงได้ง่าย และยังสามารถเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้อีกด้วย อ้างอิง https://www.primal.co.th/th/marketing/b2b-marketing-strategy/#%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94_B2B_%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87 https://tbs-marketing.com/th/verticals/b2b-marketing/ keyword การตลาด บริษัทรับทำการตลาด, การตลาดออนไลน์, ปรึกษาการตลาดออนไลน์, ทำการตลาด, บริษัท ทำการ ตลาด, วางแผน การ ตลาด, การ ตลาด 5.0, การ ทำการ ตลาด, การตลาด, บริการทําการ ตลาด, บริษัท โฆษณา ออนไลน์, วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, บริษัท การ ตลาด ออนไลน์, การ วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, จ้าง ทีม การ ตลาด, จ้าง ทำการ ตลาด , รับทำ SEO, จ้างทำ SEO, รับทำเว็บไซต์
กลยุทธ์เด็ดในการสร้าง “ภาพจำ” ด้วยการทำ Branding การสร้างแบรนด์ (Branding) แบรนด์ (Brand) คือ แนวคิดหรืออุดมคติที่แสดงถึงองค์กร ผลิตภัณฑ์ และบริการขององค์กร (Branding) คือ การสื่อสารเอกลักษณ์ของแบรนด์ เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ จนเกิดเป็นภาพจำให้กับผู้บริโภค การสร้างแบรนด์ (Branding) มีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร 1. เพิ่มความน่าเชื่อถือ 2. สร้างฐานลูกค้าประจำ 3. กระตุ้นการบอกต่อแบบ “ปากต่อปาก” 4. ปูทางเพื่อดำเนินธุรกิจในระยะยาว ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ให้เป็นที่จดจำสำหรับผู้บริโภค 1. ศึกษาคู่แข่งของแบรนด์ รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” – คำกล่าวนี้ยังคงใช้ได้เสมอและเป็นอนันต์ การทำธุรกิจก็เช่นกัน ก่อนวางแผนเรื่องทิศทางการนำเสนอแบรนด์ อย่าลืมศึกษาทิศทางของคู่แข่งที่ขายสินค้าและบริการประเภทเดียวกันก่อน 2. เก็บข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย ลองสำรวจดูว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร โดยอาจวิเคราะห์จากกลุ่มลูกค้าของธุรกิจที่ขายสินค้าและบริการประเภทเดียวกัน 3. ออกแบบบุคลิกภาพของแบรนด์ (Brand Personality) เคล็ดลับคือ ให้เปรียบแบรนด์ของคุณเป็นคนหนึ่งคน หากสร้างคนขึ้นมาใหม่ได้หนึ่งคน คุณอยากให้เขามีบุคลิกภาพแบบไหน สุภาพเรียบร้อย อ่อนโยน หรือผาดโผนชอบการผจญภัย และที่สำคัญ คุณอยากให้คนกลุ่มไหนรู้สึกชอบเขา 4. สร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity) คือการทำภาพนั้นให้ประจักษ์ชัด ด้วยการนำเสนอ “อัตลักษณ์ของแบรนด์” ผ่านการออกแบบโลโก้ สี และรูปแบบตัวอักษร เพื่อให้คนจดจำแบรนด์ของคุณ และเรียนรู้ว่าคุณแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร นอกจากนี้ อัตลักษณ์ของแบรนด์ยังสามารถถ่ายทอดผ่านสิ่งอื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น น้ำเสียงของบอทหรือแอดมินเวลาโต้ตอบกับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ คอนเทนต์ที่นำเสนอบนช่องทางต่าง ๆ หรือบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ เป็นต้น 5. การสื่อสารกับผู้บริโภคโดยใช้ Brand Marketing คือการเริ่มสื่อสารกับผู้บริโภค โดยวิเคราะห์จากเพศ วัย และพฤติกรรมการใช้งานของกลุ่มเป้าหมาย ก่อนตัดสินใจว่าจะสื่อสารกับพวกเขาผ่านทางช่องทางไหนได้บ้าง ตัวอย่างเช่น หากกลุ่มเป้าหมายของคุณคือคนอายุ 15 – 30 ปี คุณอาจเลือกทำคอนเทนต์ในหัวข้อที่พวกเขาสนใจ ลงบนสื่อ Social Media หรือเว็บไซต์ 6. ยืนหยัดในจุดยืนของแบรนด์ (Brand Positioning) คือ การยืนหยัดในจุดยืนของแบรนด์ เพราะเมื่อลงสู่สนามการตลาดไปสักพัก คุณจะพบกระแสนิยมมากมาย ที่ชักนำให้แต่ละแบรนด์หันเหไปนำเสนอในสิ่งเดียวกัน ดังเช่น การทำคอนเทนต์แบบ Realtime Marketing ที่ได้รับความนิยมมากใน Social Media ซึ่งในบางช่วงเวลา คุณเองก็อาจใช้ประโยชน์จากคอนเทนต์ประเภทนี้ได้ แต่ต้องไม่ลืมเรื่องจุดยืนของแบรนด์ 7. ตรวจสอบและวัดผลคุณภาพตลอดเวลา (สรุป) คือ การหมั่นติดตามวัดผลตลอดเวลา เพื่อหาทางปรับปรุงและพัฒนาแนวทางให้สอดรับกับสถานการณ์อยู่เสมอ คุณอาจใช้เครื่องมือวัดผลต่าง ๆ เช่น Meta Business Suite, Google Analytics หรือจัดทำแบบสำรวจความคิดเห็นจากผู้บริโภคโดยตรง ไม่ว่าจะตรวจสอบด้วยวิธีใด ขอเพียงมุ่งเน้นความสม่ำเสมอ และการพร้อมปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์เป็นสำคัญ อ้างอิง https://www.cotactic.com/blog/how-to-build-a-brand/ keyword การตลาด บริษัทรับทำการตลาด, การตลาดออนไลน์, ปรึกษาการตลาดออนไลน์, ทำการตลาด, บริษัท ทำการ ตลาด, วางแผน การ ตลาด, การ ตลาด 5.0, การ ทำการ ตลาด, การตลาด, บริการทําการ ตลาด, บริษัท โฆษณา ออนไลน์, วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, บริษัท การ ตลาด ออนไลน์, การ วางแผน การ ตลาด ออนไลน์, จ้าง ทีม การ ตลาด, จ้าง ทำการ ตลาด , รับทำ SEO, จ้างทำ SEO, รับทำเว็บไซต์